“อดุลย์” สั่ง ตร.ทุก บช.เข้มงวดกวดขันเรื่องปัญหาอาชญากรรม เน้น 9 ข้อหลักป้องกันเหตุ
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองโฆษก ตร.กล่าวถึงมาตรการดูแลการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินว่า เนื่องด้วยการก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ส่วนใหญ่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด และหลายคดีได้กระทำการในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ก่อให้เกิดความหวาดกลัวแก่ประชาชนทั่วไป ฉะนั้นเพื่อลดความรุนแรงการก่อเหตุอาชญากรรม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ดำเนินการ ดังนี้ 1. หัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งต้องประชุมฝ่ายสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปราม เพื่อรับทราบสถานการณ์อาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบด้วยตนเองทุกวัน 2. ปรับแผนการจัดสายตรวจทุกประเภทให้เหมาะสมกับห้วงเวลา และแนวโน้มอาชญากรรมที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง จุดล่อแหลม เช่น ธนาคารที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ร้านสะดวกซื้อ โดยจะต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจช่วงใกล้ปิด หรือในยามวิกาล
พล.ต.ต.ธนากล่าวต่อว่า 3. ออกแผนเผชิญเหตุคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ธนาคาร ร้านทอง ย่านธุรกิจการค้าที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนกำหนดจุดตรวจ หรือจุดสกัดเคลื่อนที่ จุดก้าวสกัดจับที่ชัดเจนเมื่อเกิดเหตุ และต้องซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอย่างจริงจัง 4.ตั้งจุดตรวจบุคคล ยานพาหนะในเส้นทางล่อแหลม เพื่อตรวจค้นอาวุธทุกชนิดที่อาจจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถที่ไม่มีใบอนุญาต หรือไม่มีสำเนาทะเบียนรถ ทั้งนี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมถ่ายรูปทำประวัติเก็บไว้เป็นหลักฐาน
“5. ระดมกวาดล้างอาวุธปืน อาวุธสงคราม และบุคคลตามหมายจับในคดียาเสพติดและคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 12-20 พ.ย.นี้ โดยในช่วงระดมให้เข้มงวดกวดขันในการตรวจตราสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง สถานที่ที่เป็นแหล่งมั่วสุมนักเลงอันธพาล เพื่อกดดันและจำกัดเสรีภาพในการก่อเหตุอาชญากรรม” รองโฆษก ตร.ระบุ
พล.ต.ต.ธนากล่าวอีกว่า 6. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์ให้เพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตนเอง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ และหากเกิดเหตุขอแนะนำให้พยายามสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะ หรือการบันทึกภาพคนร้ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ก่อนแจ้งข้อมูลดังกล่าวมายัง สน.หรือ สภ.ท้องที่ทราบโดยเร็วที่สุด 7. ให้ ผบก.และรอง ผบก.น.หรือ ผบก.ภ.จว.ลงไปควบคุมกำกับเร่งรัดการปฏิบัติ และสุ่มตรวจสอบการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุด้วยตนเอง
รองโฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า 8. ให้ บช.ก.กำชับทุกหน่วยในสังกัดที่รับผิดชอบพื้นที่ ให้เพิ่มมาตรการเชิงรุก เพื่อสนับสนุนการควบคุมและลดความรุนแรงของอาชญากรรมตามนโยบายของ ตร.โดยให้ประสานการปฏิบัติกับ ผบก.น.หรือ ผบก.ภ.จว.อย่างใกล้ชิด 9. ให้รายงานรอง ผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา (สบ 10) และผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมผ่านระบบ Polis