ตำรวจกองปราบปรามแถลงข่าวจับกุม “นู ลพบุรี” ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามพร้อมของกลาง ปืนเล็กยาวเอ็ม 16 เอ 1 ปืนเล็กยาวเอ็ม 16 เออาร์ 15 กระสุนปืนขนาด 5.56 มม.10 นัด ซองกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 2 ซอง โทรศัพท์มือถือ และกระสอบปุ๋ยอีก 2 ใบ
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.โสจิรตน์ โลหะเนตร สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายจักราวุธ ใจบุญ หรือ “นู ลพบุรี” อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 7 ต.พรหมมาสตร์ อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมของกลางปืนเล็กยาวเอ็ม 16 เอ 1 ปืนเล็กยาวเอ็ม 16 เออาร์ 15 กระสุนปืนขนาด 5.56 มม.10 นัด ซองกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 2 ซอง โทรศัพท์มือถือ และกระสอบปุ๋ยอีก 2 ใบ โดยจับกุมได้ที่ริมถนนนเรศวร หมู่ 1 ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อยก่อนการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ลพบุรี เขต 4 ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ แทนตำแหน่งของนายเกียรติ เหลืองอมรวิทย์ ที่ว่างลง โดยชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่านายจักราวุธมีพฤติการณ์ลักลอบค้าอาวุธสงคราม โดยอ้างกับสายลับว่าสามารถจัดหาปืนเอ็ม 16 มาขายให้ในราคากระบอกละ 40,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อ จึงนัดหมายส่งมอบอาวุธปืนกันในพื้นที่หมู่ 1 ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายนายจักราวุธได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง เข้ามากับสายลับ จากนั้นนายเอ็ด (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) ได้ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส สีดำ ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาสมทบภายหลัง ซึ่งนายจักราวุธได้หยิบปืนที่อยู่ในรถกระบะคันดังกล่าวออกมาให้สายลับตรวจดูสภาพ จากนั้นจึงตกลงซื้อขาย เมื่อสายลับบอกให้นายจักราวุธเข้าไปนับจำนวนเงินภายในรถยนต์ที่สายลับขับมา ระหว่างนั้นได้ให้สัญญาณเจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มรออยู่แสดงตัวเข้าจับกุมตัว ส่วนนายเอ็ดไหวตัวทันขับรถกระบะหลบหนีไปได้
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สำหรับอาวุธปืนของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุใดมาหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบหมายเลขที่พานท้ายปืนกับฝ่ายปกครองว่าเป็นปืนของหน่วยงานไหน เคยใช้ก่อเหตุมาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ปืนทั้ง 2 กระบอกอยู่ในสภาพดีมากและพร้อมใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายจักราวุธไม่พบว่ามีหมายจับติดตัว แต่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมทั้งมีความเกี่ยวพันกับขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงคราม
“ขณะนี้ทางศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) ที่มี พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้สั่งให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนทั่วประเทศ เน้นพื้นที่ซึ่งมีการแข่งขันทางการเมืองสูง รวมทั้งมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ โดยพบว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างน่าเป็นห่วงมากที่สุด ส่วนสถานการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้นเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ออกหาข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา” พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าว
จากการสอบสวนนายจักราวุธรับสารภาพว่าลักลอบค้าอาวุธสงครามดังกล่าวจริง โดยเสนอขายให้กับลูกค้าทั่วไปไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร โดยจะมีแหล่งนัดแนะซื้อขายที่สนามยิงปืน และจะจัดหาตามรายการสั่งซื้อหรือออเดอร์เท่านั้น ซึ่งแต่ละครั้งจะได้ส่วนต่างไม่มากนัก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ค้าหรือ
จำหน่ายอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป