เชียงราย - รวบ 2 หนุ่มชาวแม่จัน ซิ่งปิกอัพขนอาวุธสงครามเต็มกระบะขึ้นเทอดไทย - หัวแม่คำ มุ่งหน้าไปชายแดน เตรียมส่งให้ชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มในพม่า สารภาพรับจ้างขนเที่ยวละ 5 หมื่น เคยทำแล้ว 4 ครั้ง
วันนี้(31 ส.ค.55) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.บุญวาศน์ มังคราช ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ว่า ได้นำกำลังตำรวจออกปฏิบัติการร่วมกับ พ.อ.ถนัดพล โกศรัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง และกำลังพล ตั้งด่านตรวจบนถนนสายเทอดไทย-หัวแม่คำ หน้าตู้ยามเทอดไทย ม.1 ต.เทอดไทย ซึ่งเป็นทางไปชายแดนไทย-พม่า
ต่อมามีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผ 7433 เชียงราย มีชาย 2 คนขับ และโดยสารกันไปจากเทอดไทย มุ่งหน้าจะไปทางชายแดน เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ ปรากฏว่า พบที่กระบะหลังรถมีการคลุมผ้าใบสีดำเอาไว้มิดชิด เมื่อเปิดดูในผ้าใบพบมีกระสอบบรรจุอาวุธสงครามจำนวนมากอยู่เต็มกระบะ
จึงได้จับกุมตัวทั้ง 2 คนเอาไว้ตรวจสอบหลักฐานทราบว่าชื่อนายขวัญชัย ด่านเจริญวิทย์ อายุ 36 ปี บ้นเลขที่ 23 ม.7 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย และนายสุเมศ สิทธิวงศ์เป็ง อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 5 ม.7 ต.แม่จัน
ส่วนของกลางทั้งหมดที่พบในกระบะ ประกอบไปด้วย เครื่องยิงจรวดเอ็ม 79 จำนวน 19 กระบอก อาวุธปืนเล็กยาว เอเค 47 จำนวน 28 กระบอก ปืนเอ็ม 60 จำนวน 3 กระบอก ปืนเล็กยาวซีแซด จำนวน 5 กระบอก ปืนเล็กยาวเซมิกาเซ่ จำนวน 9 กระบอก อาวุธปืนเล็กยาว ปสบ.87 คาร์บิน จำนวน 1 กระบอก รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 68 กระบอก นอกจากนี้ยังมีซองบรรจุกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก
สอบสวนทั้งคู่สารภาพว่า รับจ้างขนอาวุธดังกล่าวไปส่งให้กับกองกำลังติดอาวุธที่อยู่ตามแนวชายแดนหลายกลุ่ม ในราคาเหมารวมครั้งละ 50,000 บาท โดยเคยทำมาแล้วถึง 4 ครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่จะนำไปส่งให้กับกองกำลังติดอาวุธต่างๆ เช่น กลุ่มของนายโสภณ ,กลุ่มอาเร ,กลุ่มอาซือ ,กลุ่มเรบน ,กลุ่มวุด ,กลุ่มยุธ ,กลุ่มพีเร ,กลุ่มนายสาม ฯลฯ
ทั้งนี้ อาวุธทั้งหมดได้ขนไปจากกรุงเทพฯ และจะใช้เส้นทางชายแดน ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นประจำ เพราะมีถนนที่สะดวกสบาย จากนั้นจะกระจายไปส่งให้ผู้ซื้อแต่ละราย ที่สั่งซื้ออาวุธไม่เหมือนกัน เช่น กลุ่มของเรบน กับกลุ่มพีเร จะเน้นไปทางเครื่องยิงจรวดเอ็ม 79 ,กลุ่มอาเร ะต้องการปืนเล็กยาวจำนวนมาก ,กลุ่มนายสาม ต้องการปืนประเภทเอเค 47 เป็นต้น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นและจับกุมได้ก่อน
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
