เชียงราย - ตำรวจเชียงรายบุกยึดคลังแสงอาวุธสงครามล็อตใหญ่ซุกบ้านชาวนาชายแดนแม่สาย เจอทั้งอาร์พีจี-เอ็ม 16-เอเค และกระสุน ฯลฯ ผู้ต้องหาสารภาพรับจ้างเก็บชั่วคราว รอคนมารับนำส่งผู้ซื้อฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจคาดใช้คุ้มกันคาราวานขนยาเสพติดเข้าไทย
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ห้องดุรงควิบูลย์ ภ.เชียงราย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ผบก.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.ณัฎฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.แม่สาย และ ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้แถลงข่าวการตรวจยึดอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยมีของกลางประกอบด้วยเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 12 กระบอก ลูกจรวดอาร์พีจี 16 จำนวน 9 ลูก อาวุธปืนเล็กยาวเอ็ม 16 จำนวน 6 กระบอก ซองกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 6 ซอง อาวุธปืนเล็กยาวเอเค 47 จำนวน 17 กระบอก ซองบรรจุกระสุนเอเค 47 จำนวน 17 ซอง รวมทั้งหมด 35 รายการ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 1 คนชื่อนายสว่าง ใจแก้ว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.12 ต.โป่งผา อ.แม่สาย
สำหรับสภาพอาวุธมีการใช้งานมานานแล้ว แต่นำมาทำความสะอาดตกแต่งจนดูใหม่
การจับกุมมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมีการลักลอบนำอาวุธสงครามจำนวนมากไปเก็บที่ชายแดนเพื่อเตรียมส่งออกไปให้ชนกลุ่มน้อยในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตรงข้าม อ.แม่สาย จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่บ้านของนายสว่าง เลขที่ 168 ดังกล่าว ปรากฏว่าไม่พบนายสว่างในบ้าน แต่เมื่อตรวจห้องนอนพบอาวุธปืนจำนวนมากดังกล่าวถูกมัดไว้เป็นมัดๆ และบางส่วนเก็บในกระสอบวางอยู่เต็มห้อง
เมื่อสอบถามนางนันทนา จันทาพูน ภรรยาของนายสว่าง ก็ทราบว่านายสว่างไปทำนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามไปจับกุมได้ที่ทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน
สอบสวนนายสว่างให้การรับสารภาพแต่โดยดีว่า เป็นคนรับจ้างให้นำอาวุธทั้งหมดไปเก็บไว้ที่บ้าน โดยครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกรับจ้างเก็บเครื่องยิงอาร์พีจีจำนวน 2 มัด ได้เงินค่าจ้าง 7,000 บาท ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่สองโดยรับเงินมาแล้วจำนวน 10,000 บาท จึงนำไปเป็นต้นทุนในการทำนา ส่วนอาวุธทั้งหมดเมื่อนำไปเก็บไว้ก็จะมีคนมารับเพื่อนำไปส่งให้คนซื้อต่อไป
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์คาดว่า อาวุธสงครามทั้งหมดจะถูกนำไปส่งให้ขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งในช่วงหลังมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยวิธีแรกขนยาเสพติดโดยไม่ใช้คนขน แต่นำซุกซ่อนกับวัตถุต่างๆ เช่น กระสอบข้าวสาร รถจักรยานยนต์ ฯลฯ จากนั้นฝากหรือขนส่งไปกับรถโดยสารทำให้ตรวจสอบยากว่าเป็นใคร
และอีกวิธีคือลำเลียงผ่านป่าเขาเข้ามาทางอำเภอชายแดน และลักลอบขนตามเส้นทางป่าเขานี้ไปเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงด่านตรวจตามถนนสายหลัก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้อาวุธในการคุ้มกันคาราวานยาเสพติดดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้ถือว่าน่าห่วงเพราะจะเป็นอาวุธที่กลับมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปราบปราม ดังนั้นจึงต้องบูรณาการกันทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ฯลฯ เพื่อสกัดกั้น
สำหรับต้นทางที่มาของอาวุธนั้นอยู่ระหว่างประสานฝ่ายทหารตรวจสอบต่อไป แต่เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะมาจากในประเทศแต่นำเข้าจากต่างประเทศ