รอง ผบช.น.แถลงผลงานตำรวจ บก.น. 4 จับกุมแก๊งลักทรัพย์พร้อมของกลาง อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 พร้อมกระสุนปืน 6 นัด อาวุธปืนเล็กยาว(ลูกซอง)พร้อมเครื่องกระสุน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด นาฬิกายี่ห้อไซโก้ 1 เรือน ยาไอซ์น้ำหนักรวม 80 กรัมจำนวน 1 ถุง สารภาพก่อเหตุนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายเอนก หรือตั้ม ถิ่นวิลัย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซอยวชิรธรรมสาธิต 61 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. 2.นายวรสันติ์ หรือโต้ หลุมเพชร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 237/21 ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. และ3.นายสุพัฒน์ หรือแบงค์ หงษ์แก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ซอยอ่อนนุช 53 แขวงและเขตประเวศ กทม. พร้อมของกลาง อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 พร้อมกระสุนปืน 6 นัด อาวุธปืนเล็กยาว(ลูกซอง)พร้อมเครื่องกระสุน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด นาฬิกายี่ห้อไซโก้ 1 เรือน ยาไอซ์น้ำหนักรวม 80 กรัมจำนวน 1 ถุง และทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์อีกหลายรายการ โดยมีผู้เสียหาย 6 รายเข้ามายืนยันทรัพย์สินของกลางที่ถูกลักทรัพย์
พล.ต.ต.ปริญญา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมกับขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการตระเวนลักทรัพย์ตามเคหะสถานในพื้นที่ต่างๆของข้าราชการตำรวจมาแล้วหลายราย
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายเอนก มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและชอบพกพาอาวุธปืน รวมทั้ง มีพฤติการณ์ลักทรัพย์ตามบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งนายเอนกได้เช่าบ้านพักเลขที่ 2/30 ภายในซอยสวนสยาม 13 ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเฝ้าสังเกตุการณ์จนพบว่า นายเอนก อยู่บริเวณหน้าบ้านพัก จึงขออนุญาตตรวจค้น พบอาวุธปืนรีวอลเลอร์ ไทยประดิษฐ์ ขนาด.38 พร้อมเครื่องกระสุน
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน นายเอนก ให้การว่า เป็นคนที่เข้าไปลักทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชนและก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ โดยนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายย่านบางนาและสำโรง อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ในห้องพักตนเอง ซึ่งผลตรวจค้นพบทรัพย์สินอีกหลายรายการ รวมทั้ง ได้ฝากทรัพย์สินบางอย่างกับเพื่อนในกลุ่มไว้
“โดยนายเอนกจะเลือกบ้านที่ติดกับที่รกร้างหรือบ้านลักษณะบ้านเดี่ยว อาศัยจังหวะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่เข้าไปก่อเหตุ และจะลงมือเพียงคนเดียว ซึ่งหลังจากได้ทรัพย์สินก็จะฝากที่บ้านเพื่อนหรือบางครั้งเรียกเพื่อนให้ขับรถแท็กซี่มารับ ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพ”พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าว
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการขยายผลทราบว่า นายเอนก ได้นำทรัพย์สินที่ขโมยมาไปฝากไว้ที่นายวรสันติ์ เก็บไว้เพื่อรอจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของนายวรสันติ์เอง พร้อมกับทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ยังขยายไปจับกุมผู้ต้องหาอีกราย คือ นายสุพัฒน์ ได้คาบ้านพัก พร้อมอาวุธปืนเล็กยาว(ลูกซองยาว)พร้อมเครื่องกระสุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นของพล.ต.ต.ปิยะพล โมกขวัฒนะ อดีตผบก.จตร. นรต.รุ่น 28 ซึ่งเกษียณราชการไปแล้วและเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพล.ต.อ.ปาน ศิริประภาวัต รองผบ.ตร. และยังพบยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ เคยไปก่อเหตุลักทรัพย์บ้านนายพิทักษ์ พลขันธ์ อดีตรองอธิบดีกรมพลศึกษา ถึง 4 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปกว่า 7 แสนบาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายเอนก “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ลักทรัพย์หรือรับของโจร” ส่วนนายวรสันติ์ แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” และนายสุพัฒน์ แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการขยายผลต่อไป