“เฉลิม” เปิดโครงการร่วมกับผู้ประกอบการที่พักอาศัยป้องกันการซุกซ่อนยาเสพติด
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แถลงโครงการประชุมสัมมนาผู้ประกอบการ บ้านจัดสรร หอพัก คอนโดมิเนียม อาคารชุด อพาร์ตเมนต์ ในพื้นที่ กทม.จำนวน 2,000 แห่ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนการแก่ไขปัญหายาเสพติด โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เนื่องด้วยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงกำหนดนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา โดยนำทุกภาคส่วนเข้าร่วมโครงการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ เนื่องจากการค้ายาเสพติดมีผลประโยชน์มหาศาล เป็นแรงจูงใจที่จะทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ตลอดจนพัฒนาเทคนิค วิธีการกระทำผิดเพื่อหลีกเลี่ยงหลบหนีอยู่ตลอดเวลา เช่น การเช่าบ้านจัดสรร หอพัก คอนโดมิเนียม อาคารชุด อพาร์เมนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นแหล่งเก็บหรือพักยาเสพติดจำนวนมาก หรือเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด เป็นต้น ดังนั้น การขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันแก้ไขยาเสพติดในกรุงเทพฯ ร่วมกันไม่ให้มีแหล่งพักยาเสพติดหรือแหล่งมั่วสุมยาเสพติดอีกต่อไป โดยมีผู้ประกอบการช่วยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดให้ได้ผล อย่างมีประสิทธิภาพ
“การทำงานเกี่ยวกับการป้องกันยาเสพติด เราไม่สามารถทำเพียงลำพัง เราต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน โดยเราจะใช้หลัก นิติรัฐ และนิติธรรม ในการป้องกันและปราบปราม เราจะถือว่าเป็นวาระแห่งชาติในการเร่งแก้ไข โดยปีที่ผ่านมาสามารถจับได้ถึง 110 ล้านเม็ด โดยส่วนมากจะนำเข้ามาทางภาคเหนือถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และภาคอีสาน 13 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนมากจะนำมาพักไว้ที่กรุงเทพฯ และที่สำคัญคนที่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด ความต้องการยาเหล่านี้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศเป็นที่น่าวิตกมาก แต่ปีนี้เราจะเน้นการบำบัดรักษา พร้อมทั้งติดตามตรวจสอบผู้บำบัดไปแล้วว่าจะกลับมาเสพหรือค้าอีกหรือไม่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในกรุงเทพฯ รวมถึงปลุกกระแสสังคมให้มีจิตสำนึกโดยการเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล และเลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้เห็นความสำคัญ จึงจัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งเอาผิดต่อผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามคำสั่งระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
