โฆษก สตช.เผย “ผบ.ตร.” สั่งตตำรวจทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนเต็มที่ พร้อมสั่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมและติดตามจับกุมคนร้ายตามหมายจับค้างเก่า
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ วันหยุดยาวที่มีประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานที่จัดงานหรือกิจกรรมรื่นเริง อาจทำให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ โดยเริ่มดำเนินการวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เน้นการกวาดล้างอาวุธปืน อาวุธสงคราม รวมทั้งบุคคลตามหมายจับคดีค้างเก่า
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านป้องกันแลปราบปรามอาชญากรรม ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายและตั้งจุดตรวจสกัด มุ่งเน้นการป้องกันปราบปรามการกระทำผิด โดยเน้นคดีที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ คดีอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน อาวุธสงคราม คดียาเสพติด คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ สถานประกอบการที่มีเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมาก หรือร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงที่พักอาศัยต่างๆ รวมทั้งคดีอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นตามสถานีขนส่ง สถานที่พักผู้โดยสาร พื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว รวมไปถึงสถานที่ที่มีประชาชนไปร่วมจัดกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังให้กวดขันจับกุมสถานบริการทุกประเภทที่กระทำผิดกฎหมาย ตลอดจนร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุราให้แก่เด็ก เยาวชน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินการเสนอให้พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการ ทั้งนี้ ตร.ให้ความสำคัญกับคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการดื่มสุราเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมและอุบัติเหตุต่างๆ โดยจะเน้นเรื่องการห้ามจำหน่าย ห้ามดื่มในสถานที่ที่กำหนด วันเวลาที่ห้ามจำหน่าย และบุคคลที่ห้ามจำหน่าย โดยในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สอดคล้องกับรัฐบาลที่จะมีการดำเนินการให้มาตรการเหล่านี้สามารถบังคับใช้ได้ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่
“ขณะเดียวกันให้มีการตรวจสอบสถานที่มีการจัดงานเคานต์ดาวน์ใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ให้นายตำรวจรอง ผบช. หรือ ผบก.ในแต่ละจังหวัดลงไปประสานงานกับผู้จัดงาน รวมทั้งฝ่ายปกครอง หรือท้องถิ่น ในการร่วมกันวางมาตรการดูแลการจัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกัน ให้ประสานงานกับผู้ประกอบการบ้านจัดสรรเพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด รปภ. ให้มีการจดจำตำหนิรูปพรรณ ในการวางมาตรการดูแลคามปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่” โฆษก ตร.กล่าว และว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการกองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบังคับการตำรวจจราจร ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งให้กวดขันจับกุมความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ และความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงมีการจัดทำโครงการ “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 55 - 2 ม.ค. 56 เพื่อเสริมในการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนที่ต้องทิ้งบ้านเรือนเดินทางไปต่าวจังหวัด โดยให้หัวหน้าสถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่ต่างๆ ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติและเข้าใจวิธีปฏิบัติ สามารถแนะนำแก่ประชาชนได้อย่างเหมาะสม โดย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส.จะลงมาช่วยดูแลโครงการนี้ด้วยตนเอง
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์คดีอาชญากรรมในช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญมักจะมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อเข้าไปในบ้าน และทำการลักทรัพย์หรือก่อคดีอื่นๆ โดยกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว สามารถจำแนกออกเป็นกลุ่มต่างๆ ประกอบด้วย กลุ่มที่อ้างว่าเข้าไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้าน โดยอ้างว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน กลุ่มแอบอ้างเป็นช่างซ่อมสาธารณูปโภคต่างๆ และแอบอ้างเป็นบุรุษไปรษณีย์ รวมถึงอ้างว่าเจ้าของบ้านให้มาเอาของภายในบ้าน จึงฝากเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากสงสัยหรือไม่แน่ใจให้โทร.ติดต่อเจ้าของบ้าน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบเพื่อเป็นการป้องกัน