ASTVผู้จัดการรายวัน - ศูนย์ข้อมูลฯ เผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเขตกทม. ปริมณฑล พบ 1,230 โครงการ 3.29 แสนหน่วย มูลค่ารวม 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 743 โครงการ 151,000 หน่วย ขายได้แล้ว 8.9 หมื่นหน่วย เหลือขาย 41% -ขณะที่คอนโดฯ เปิดขาย 335 โครงการ มูลค่า 490,000 ล้านบาท ห้วยขวางแชมป์เหลือขาย 15,392 หน่วย รองลงมาคือเขตบางนา 9,711
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายในกทม.และปริมณฑลถึงเดือนตุลาคม 2555 (นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป) จำนวนทั้งสิ้น 1,230 โครงการ รวม 329,541 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 816 โครงการ จำนวน 165,918 หน่วย และเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 394 โครงการ จำนวน 163,623 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกันทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมกว่า 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าวแบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 743 โครงการ 151,000 หน่วย ในจำนวนนี้ขายได้แล้ว 89,000 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 59 และเหลือขาย 62,000 หน่วย หรือร้อยละ 41 อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 294 โครงการ 52,000 หน่วย, นนทบุรี 164 โครงการ 33,700 หน่วย, ปทุมธานี 120 โครงการ 29,400 หน่วย, สมุทรปราการ 88 โครงการ 19,800 หน่วย, สมุทรสาคร 47 โครงการ 10,900 หน่วย และนครปฐม 30 โครงการ 5,300 หน่วย
สำหรับ บ้านจัดสรร 478 โครงการจากทั้งหมด 743 โครงการ มีขนาดเนื้อที่ดิน11-50 ไร่ โครงการที่มีหน่วยในผังมากกว่า 250 หน่วยมี 140 โครงการ ส่วนโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนหน่วยในผังไม่เกิน 100 หน่วยมี 356 โครงการแยกประเภทตามจำนวนหน่วยได้เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 41, ทาวน์เฮาส์ร้อยละ 47 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 12 เป็นบ้านแฝด หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินเปล่าในโครงการจัดสรร
โดยสามารถแยกตามระดับราคา พบว่าเป็นหน่วยบ้านจัดสรรราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท 79,500 หน่วยหรือร้อยละ 53, ราคา 3.01-5 ล้านบาท 46,400 หน่วยหรือร้อยละ 31 ที่เหลือร้อยละ 16 ราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท แยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่า สร้างเสร็จแล้ว 85,900 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 29,500 หน่วย และยังไม่ได้เริ่มสร้าง 35,800 หน่วย ส่วนโครงการอาคารชุด จากการสำรวจพบว่า มีจำนวน 335 โครงการ 147,700 หน่วย มูลค่าโครงการ 490,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้แล้ว 102,900 หน่วย และเหลือขายประมาณ 44,900 หน่วย
นายสัมมา กล่าวอีกว่าโครงการอาคารชุดแยกประเภทได้เป็นแบบสตูดิโอประมาณ 15% เป็นแบบ 1 ห้องนอน 66% เป็นแบบ 2 ห้องนอนประมาณ 17% ที่เหลือเป็นแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป และพบว่าเป็นหน่วยห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 47% ราคา 2-5 ล้านบาท 37% ที่เหลืออีก 16% เป็นมีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนหน่วยห้องชุดในผังโครงการอยู่ในระหว่างการขายมากที่สุด ได้แก่ เขตห้วยขวาง จำนวน 15,392 หน่วย รองลงมาคือเขตบางนา 9,711 หน่วย เขตสวนหลวง จำนวน 8,447 หน่วย อำเภอเมืองนนทบุรี จำนวน 7,899 หน่วย และเขตวัฒนา จำนวน 7,711 หน่วย
แยกประเภทได้เป็นแบบสตูดิโอร้อยละ 15 เป็นแบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 66 เป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 17 ส่วนที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป แยกตามระดับราคา พบว่าเป็นหน่วยห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 69,700 หน่วยหรือร้อยละ 47, ราคา 2.1-5 ล้านบาท จำนวน 54,300 หน่วยหรือร้อยละ 37 ที่เหลือร้อยละ 16 เป็นหน่วยที่มีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2555 มีหน่วยบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ประมาณ 73 โครงการ หรือประมาณ 14,800 หน่วย และมีหน่วยห้องชุดเปิดขายใหม่ 59 โครงการ 15,900 หน่วย แสดงว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความมั่นใจที่จะเปิดโครงการแนวราบมากขึ้นจนจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มีมากเกือบเท่าหน่วยห้องชุด หลังจากที่มีการเปิดหน่วยห้องชุดมากกว่าบ้านจัดสรรในสัดส่วนเกือบ 3 เท่าตัวในครึ่งแรกของปี
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายในกทม.และปริมณฑลถึงเดือนตุลาคม 2555 (นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป) จำนวนทั้งสิ้น 1,230 โครงการ รวม 329,541 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 816 โครงการ จำนวน 165,918 หน่วย และเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 394 โครงการ จำนวน 163,623 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกันทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมกว่า 1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าวแบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 743 โครงการ 151,000 หน่วย ในจำนวนนี้ขายได้แล้ว 89,000 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 59 และเหลือขาย 62,000 หน่วย หรือร้อยละ 41 อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 294 โครงการ 52,000 หน่วย, นนทบุรี 164 โครงการ 33,700 หน่วย, ปทุมธานี 120 โครงการ 29,400 หน่วย, สมุทรปราการ 88 โครงการ 19,800 หน่วย, สมุทรสาคร 47 โครงการ 10,900 หน่วย และนครปฐม 30 โครงการ 5,300 หน่วย
สำหรับ บ้านจัดสรร 478 โครงการจากทั้งหมด 743 โครงการ มีขนาดเนื้อที่ดิน11-50 ไร่ โครงการที่มีหน่วยในผังมากกว่า 250 หน่วยมี 140 โครงการ ส่วนโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนหน่วยในผังไม่เกิน 100 หน่วยมี 356 โครงการแยกประเภทตามจำนวนหน่วยได้เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 41, ทาวน์เฮาส์ร้อยละ 47 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 12 เป็นบ้านแฝด หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินเปล่าในโครงการจัดสรร
โดยสามารถแยกตามระดับราคา พบว่าเป็นหน่วยบ้านจัดสรรราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท 79,500 หน่วยหรือร้อยละ 53, ราคา 3.01-5 ล้านบาท 46,400 หน่วยหรือร้อยละ 31 ที่เหลือร้อยละ 16 ราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท แยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่า สร้างเสร็จแล้ว 85,900 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 29,500 หน่วย และยังไม่ได้เริ่มสร้าง 35,800 หน่วย ส่วนโครงการอาคารชุด จากการสำรวจพบว่า มีจำนวน 335 โครงการ 147,700 หน่วย มูลค่าโครงการ 490,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้แล้ว 102,900 หน่วย และเหลือขายประมาณ 44,900 หน่วย
นายสัมมา กล่าวอีกว่าโครงการอาคารชุดแยกประเภทได้เป็นแบบสตูดิโอประมาณ 15% เป็นแบบ 1 ห้องนอน 66% เป็นแบบ 2 ห้องนอนประมาณ 17% ที่เหลือเป็นแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป และพบว่าเป็นหน่วยห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 47% ราคา 2-5 ล้านบาท 37% ที่เหลืออีก 16% เป็นมีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนหน่วยห้องชุดในผังโครงการอยู่ในระหว่างการขายมากที่สุด ได้แก่ เขตห้วยขวาง จำนวน 15,392 หน่วย รองลงมาคือเขตบางนา 9,711 หน่วย เขตสวนหลวง จำนวน 8,447 หน่วย อำเภอเมืองนนทบุรี จำนวน 7,899 หน่วย และเขตวัฒนา จำนวน 7,711 หน่วย
แยกประเภทได้เป็นแบบสตูดิโอร้อยละ 15 เป็นแบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 66 เป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 17 ส่วนที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป แยกตามระดับราคา พบว่าเป็นหน่วยห้องชุดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 69,700 หน่วยหรือร้อยละ 47, ราคา 2.1-5 ล้านบาท จำนวน 54,300 หน่วยหรือร้อยละ 37 ที่เหลือร้อยละ 16 เป็นหน่วยที่มีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2555 มีหน่วยบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ประมาณ 73 โครงการ หรือประมาณ 14,800 หน่วย และมีหน่วยห้องชุดเปิดขายใหม่ 59 โครงการ 15,900 หน่วย แสดงว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความมั่นใจที่จะเปิดโครงการแนวราบมากขึ้นจนจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มีมากเกือบเท่าหน่วยห้องชุด หลังจากที่มีการเปิดหน่วยห้องชุดมากกว่าบ้านจัดสรรในสัดส่วนเกือบ 3 เท่าตัวในครึ่งแรกของปี