xs
xsm
sm
md
lg

"ปราจีนโมเดล"ยุทธการเด็ดปีกเจ้าพ่อฮั้วประมูล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 แถลงผลจับกุม นายเต็มพงษ์ หรือ สจ.โต้ง ฤทธิ์เดช อายุ 36 ปี สจ.เขต อ.เมืองปราจีนบุรี และพวก
ทันทีที่ย้ายมา รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ก็ได้หยิบแฟ้มคดีค้างเก่าเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลและฮั้วประมูลมาปัดฝุ่น กระทั่งพบสิ่งผิดปกติในจังหวัดปราจีนบุรี นับแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการฮั้วประมูล และความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นมีผู้ถูกฆ่าตายไปแล้ว 15 ศพ แต่ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังลากคอมือสังหารมาดำเนินคดีไม่ได้แม้แต่รายเดียว

พล.ต.ท.วินัย จึงเรียกทีมสืบสวนมาร่วมประชุมไขข้อข้องใจ พร้อมตั้งคำถามในที่ประชุมว่าทำไมคดีหลายคดีถึงค้างเติ่งจนฝุ่นจับ กระทั่งพบความไม่ชอบมาพากล ทุกคดีล้วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นรายหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรีและที่คดีไม่มีความคืบหน้าเพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงระดับชาติเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

โดยคดีที่ขัดแย้งเรื่องฮั้วประมูลและขจัดคู่แข่งทางการเมืองมี 7 คดี คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2550 คนร้ายก่อเหตุยิง นายมนตรี แก้วกล่ำ สมาชิก อบต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง เสียชีวิตคาบ้านพัก สอบสวนพบว่าผู้ตายสนับสนุนหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นให้กับฝ่ายตรงข้าม

คดีที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2551 เมื่อนายขจร หงส์ทอง กำนัน ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. ยิงเสียชีวิตที่บ้านพัก สาเหตุมาจากการที่กำนันขจร ไม่สนับสนุนคนของผู้มีอิทธิพลที่ลงเลือกตั้งเป็น นายก อบต.ประจันตคาม

คดีที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2552 นายสุรชาติ นันมา อายุ 38 ปี พนักงานขับรถยนต์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 ถูกคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตบนถนนสาย 304 (ศรีมหาโพธิ-กบินทร์บุรี) ระหว่าง กม.85-86 หมู่ 11 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ขณะขับรถยนต์กลับบ้าน สาเหตุเพราะไปเป็นพยานให้กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) กรณีมีการซื้อเสียง กระทั่งมีการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. รายหนึ่ง

คดีที่ 4.วันที่ 2 มี.ค.2554 นายอะนนท์ เจริญสุข นายก อบต.ท่าตูม ถูกวางระเบิดรถยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดทั้งสองข้าง สาเหตุจากลงเลือกตั้งนายก อบต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ แข่ง กับ คนที่ นักการเมืองท้องถิ่นผู้มีอิทธิพลให้การสนับสนุน

คดีที่ 5.เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย.2554 นายอพิสิทธิ์ นะตาปา อายุ 28 ปี ถูกยิงเสียชีวิต กลางถนนในหมู่บ้านพลับใหม่หมู่ 11 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม ยาบ้าที่ผู้ตาย 20 เม้ดพร้อมเงินสดจำนวน 5,5440 บาท ลูกน้องผู้มีอิทธิพลหักหลัง เรื่องยาเสพติด

คดีที่ 6.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2555 นายบัณฑิต ส่องแสง ถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าหน้าบ้านพัก สาเหตุลงแข่งขันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ประจันตะคาม กับบุคคลกลุ่มที่นักการเมืองท้องถิ่นผู้มีอิทธิพล ให้การสนับสุนน

คดีสุดท้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2552 นายพรศักดิ์ จันทร์สิวานนท์ อายุ 53 ปี นักธุรกิจ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเสียชีวิตคารถเบนซ์หลังอาคารจอดรถของ อบจ.ปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง โดยผู้ตายเข้าไปประมูลงานที่ อบจ.ปราจีนบุรี แข่งขันกับกลุ่มบริษัทของผู้มีอิทธิพล จนทำให้เกิดความไม่พอใจ

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งหมดนี้มี นายเต็มพงษ์ หรือ สจ.โต้ง ฤทธิ์เดช อายุ 36 ปี สจ.เขต อ.เมืองปราจีนบุรี เป็นหัวหน้าแก๊งบงการอยู่เบื้องหลัง จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเนื่องจากมีนักการเมืองระดับชาติคอยให้ท้าย หนุนหลัง ทำให้มาเฟียกลุ่มนี้เหิมเกริม

ที่ผ่านมาชาวบ้านใน จ.ปราจีนบุรี ตกอยู่ในความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าไปขวางผลประโยชน์ มิเช่นนั้นอาญานรกจะตกถึงตัวได้

นอกจากนี้พบว่ายังมีคดีที่กลุ่ม สจ.โต้ง เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเช่น เมื่อต้นปี 2554 คดียิง นายสมชาย สุจริต และคนงาน ขณะก่อสร้างบ้านให้กับ สจ.โต้ง แต่กระสุนไม่ถูกใคร ส่วนสาเหตุมาจาก สจ.คนดัง โกรธหาว่าคนงานสร้างบ้านตนเองล่าช้า

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2555 สจ.โต้ง กับพวกบุกรุกข่มขู่ นายพิเชษฐ์ สุจริต และภรรยาที่บ้านพัก สาเหตุการเมืองท้องถิ่น ถัดมาอีก 1 วัน สจ.คนดังก็ใช้ปืนข่มขู่ นายสมชาย สุจริต อีกครั้ง สาเหตุไปพบเห็นพฤติการณ์ซื้อเสียงเลือกตั้ง วันเดียวกัน นายเดชา ยิ่งยงค์ กับพวก ถูกยิงในบ้าน สาเหตุไม่ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง อบต.บ้านนา ให้คนของ สจ.โต้ง และวันที่ 7 ต.ค. 2555 คนร้ายยิงปืนใส่เข้าไปในบ้าน นายสมชาย สุจริต กระสุนถูก ภรรยานายสมชายได้รับบาดเจ็บ สาเหตุมาจากต้องการข่มขู่ ในการเลือกตั้ง อบต.บางเดชะ

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2554 สจ.โต้ง กับพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายกฤษฎากรณ์ สุริยวงศ์ หรือนายกหนุ่ม นายก อบต.กบินทร์ กับพวก และได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า กำนันสมใจ พุทธิสังข์ และนายธวัชชัย แก้วแก่น เพื่อกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประมูลงานก่อสร้าง

แล้วยุทธการเด็ดปีกเจ้าพ่อแห่งปราจีนบุรีก็เริ่มต้นขึ้น โดย พล.ต.ท.วินัย ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปร่วมประมูลงานก่อสร้างที่ อบจ.ปราจีนบุรี 3 ครั้ง มูลค่าหลายร้อยล้านบาท แต่ถูกกลุ่ม สจ.โต้งทำร้ายและข่มขู่ทุกครั้ง แล้วได้เสนอเงินไม่ให้ซื้อเอกสารประกวดราคา จากนั้นก็มีการโอนเงินจากกลุ่มผู้ฮั้วประมูลเข้าบัญชีธนาคารของสายลับ

นั่นคือหลักฐานเด็ดที่สามารถมัดตัวมาเฟียฮั้วประมูลกลุ่มนี้ได้ในเวลาต่อมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รวมรวมพยานหลักฐาน กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2555 ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย นายเต็มพงษ์ หรือ สจ.โต้ง ฤทธิ์เดช อายุ อายุ 36 ปี , นายศิริธร หรือต้น ยงศรี อายุ 31 ปี , นายเชิดเกียรติ ชาดเกษมสุข อายุ 57 ปี ,นายอุทิศ หรือตึ๋ง ฤทธิ์เดช อายุ 52 ปี พี่ชาย สจ.โต้ง ,นายตะวัน ฤทธิ์เดช อายุ 27 ปี , นายดิเรก พุ้มท้วม อายุ 29 ปี ,จ่าเอกศตวรรษ หรือแก๋ง อาจโยธา อายุ 33 ปี สังกัดนาวิกโยธินทหารเรือสัตหีบ ด.ต.ถิรวัฒน์ ระวิชัย อายุ 45 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เกาะกูด จ.ตราด ,นายพรชัย ชนะภัย อายุ 46 ปี และ นายณรงค์ บรรณามล

ในข้อหาร่วมกันให้ หรือรับว่าจะให้เงินแก่ผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้นั้นไม่เข้าร่วมในการเสนอ ราคา และ ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมไม่เข้าร่วมในการข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมไม่เข้า ร่วมในการเสนอราคาโดยใช้กำลังประทุษร้าย

ต่อมาเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท. ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท. วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 และพ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. นำกำลังตำรวจคอมมานโดครึ่งร้อยบุกจับกุม สจ. โต้ง ได้ ที่บ้านพักตากอากาศเลขที่ 143 ต.หน้าเมือง อ.เมือง พร้อมพวก 3 ราย ประกอบด้วย นายอุทิศ จ่าเอกศตวรรษ และ ด.ต.ถิรวัฒน์ พร้อมของกลางปืนพกสั้น 5 กระบอก ปืนลูกซอง 1 กระบอก กระสุนขนาด 9 มม. 79 นัด กระสุนปืนลูกซอง 4 นัด และโทรศัพท์มือถืออีก 10 เครื่อง

จากนั้นวันที่ 14 ธ.ค.กำลังตำรวจ 480 นายเข้าตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานอีก 32 เป้าหมาย ประกอบด้วย อบจ.ปราจีนบุรี บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูล กลุ่มบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับ สจ.โต้ง และผู้มีอิทธิพลรายอื่นใน จ.ปราจีนบุรี พบบัญชีจ่ายเงินล้มโครงการประมูลในฝ่ายจัดซื้อพัสดุ ห้องทำงานเลขานุการนายก อบจ. และห้องทำงานนายก อบจ. จำนวนมากนอกจากนี้ยึดอาวุธปืนพกสั้น 26 กระบอก อาวุธปืนลูกซอง 13 กระบอกและเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังปากแข้งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าว หา

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 รายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว นอกจากนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานเพื่อดำเนินคดีฮั้วประมูล และคดีร่วมกันฆ่า รวมทั้งดำเนินกฎหมายตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ.2542 เพื่อทำการยึดทรัพย์คืนหลวง ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะได้รวบรวมหลักฐานนำเสนอ ผบ.ตร.เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ และสำหรับข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีกจำนวน 6 นายได้เสนอ ผบ.ตร.เพื่อปรับย้ายและตั้งกรรมการสอบสวนทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป

“ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลส่งลูกน้องไปขัด ขวางการประมูลแห่งหนึ่ง โดยเข้าไปทำร้ายร่างกายกำนันคนหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ และยังเข้าไปทำร้ายนายกเทศมนตรีเทศบาลกบินทร์ จนสลบคาห้องทำงาน ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ได้อย่างแน่ นอน ส่วนสาเหตุการตายของผู้เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมดหากโยงใยไปถึงใครก็จะถูก ดำเนินคดีโดยไม่ไว้หน้าอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จะใช้รูปแบบปราจีนบุรีโมเดลปราบปรามผู้มีอิทธิพลในท้องที่อื่น ๆ ต่อไป ” ผบช.ภ.2 กล่าว

ไม่น่าเชื่อว่าบ้านเมืองเรายังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหลงเหลือหลุดรอดเงื้อมมือ กฎหมายก่อกรรมทำเข็ญฆ่าคนเป็นผักปลา แถมยังฉ้อราษฎร์บังหลวงโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองหลายร้อยล้านบาทมาได้ตั้ง หลายปี โดยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลมืด ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากปัดบ้านกวาดเมืองปราจีนบุรีจนสะอาดเรียบร้อย แล้ว“ปราจีนโมเดล”จะขยายยุทธการออกไปตัดรากถอนโคนผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอื่น ต่อไป.

อาวุธปืนของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้
กระสุนปืนจำนวนมาก
เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ อบจ.ปราจีนบุรี
หลักฐานชิ้นสำคัญในการฮั้วประมูล
กำลังโหลดความคิดเห็น