เลื่อนสืบพยาน นปช.ก่อการร้าย เหตุ “เต้น” อ้างติดภารกิจตาม “นายกฯ ปู”

ศาลเลื่อนสืบพยานโจทก์คดีเสื้อแดงก่อการร้าย ไป 14 ธ.ค.นี้ เหตุ “จรัญ ลอยพูล” การ์ด นปช.ก่อคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ถูกจับขังอยู่เรือนจำต่างจังหวัด ขณะที่ “เต้น-ณัฐวุฒิ” อ้างภารกิจติดตามนายกฯ ลงใต้ ศาลจึงกำชับทนายพาจำเลยมาศาล ไม่งั้นจะพิจารณาออกหมายจับ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในคดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันทำให้ปรากฏกับประชาชนด้วยวาจา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2553

เมื่อถึงเวลาทนายความ นายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่าเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดภารกิจเดินทางติดตาม น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะไปประชุมและติดตามการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ จ.ยะลา และจำเลยที่ 3 มีกำหนดการที่ต้องร่วมเดินทางเพื่อติดตามและปฎิบัติงานของสมาชิกกองทุนพัฒนาสตรีและกลุ่มมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเปิดสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงขอเลื่อนคดีออกไปสักนัดหนึ่ง

ขณะที่ทนายความของนายจรัญ หรือยักษ์ ลอยพูล อดีตลูกน้องเสธ.แดง และการ์ด นปช. จำเลยที่ 13 แถลงว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา นายจรัญ จำเลยที่ 13 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นและ พ.ร.บ.อาวุธปืน ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนำหลักฐานเป็นภาพข่าวจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์มาประกอบการพิจารณาของศาลด้วย จึงขอเลื่อนคดีออกไปสักนัดหนึ่ง

ศาลสอบถามพนักงานอัยการโจทก์แถลงไม่คัดค้านและแถลงเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.คณิศรชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พยานโจทก์มีอาการปวดหลัง ได้เข้ารับการรักษา แพทย์มีความเห็นให้พักผ่อนและห้ามเคลื่อนไหวร่างกาย จนถึงวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ในวันนี้โจทก์จึงไม่มีพยานมาศาล โดยในวันที่ 14 ธันวาคม โจทก์จะนำ พ.อ.ธนากร โชติพงษ์ เจ้าหน้าที่ทหารมาเบิกความต่อศาล เพื่อการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคดีนี้

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในส่วนของนายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3 ที่ขอเลื่อนคดีอ้างว่าต้องติดตามนายกรัฐมนตรีไปประชุมพบปะและติดตามการปฎิบัติงานของสมาชิกชุมชนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งไปร่วมพิธีเปิดสะพานอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางนั้น เห็นว่าแม้ภารกิจของนายกรัฐมนตรีจะเป็นงานสำคัญของฝ่ายบริหาร แต่ก็ไม่ปรากฏว่านายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3 มีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องติดตามนายกรัฐมนตรีไป และในนัดสืบพยานครั้งที่แล้ว นพ.เหวง จำเลยที่ 4 ได้แถลงขอเลื่อนคดี โดยอ้างว่าเป็นประธานกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและขอเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ โดยขอยกเลิกวันนัดสืบพยานโจทก์ และศาลก็ได้กำชับจำเลยที่เป็น ส.ส.ว่า เนื่องจากสามารถนัดพิจารณาคดีนี้ได้ปีละไม่กี่นัดเท่านั้น ให้ทุกคนมาศาลตามกำหนดนัดอย่าเลื่อนคดีอีก ซึ่งกระบวนการพิจารณาคดีของศาลเป็นอำนาจตุลาการก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับฝ่ายบริหาร นายณัฐวุฒิจำเลยที่ 3 จึงสมควรที่จะมาศาลตามนัดทุกนัด

แต่เมื่อพนักงานอัยการโจทก์ไม่คัดค้านและโจทก์ไม่มีพยานมาศาล กรณีจึงไม่สามารถสืบพยานโจทก์ได้ ประกอบกับทนายความนายจรัญ จำเลยที่ 13 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าจำเลยที่ 13 ถูกจับกุมและโจทก์ไม่คัดค้าน โดยเชื่อว่าจำเลยที่ 13 ถูกจับกุมจริง เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงเห็นสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีออกไป โดยให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับทนายความจำเลยที่ 3 ให้แจ้งนายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 3 ทราบและเดินทางมาในวันนัด หากไม่มาศาลอีกจะพิจารณาออกหมายจับ นอกจากนี้ให้มีหนังสือเบิกตัวนายจรัญ จำเลยที่ 13 จากเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้มาศาลตามนัดด้วย