ช่างภาพเอเอสทีวีผู้จัดการ-ทีนิวส์-ไทยพีบีเอส แจ้งจับ ตร.ถูกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวระหว่างทำข่าวช่วงการชุมนุม
วันนี้ (27 พ.ย.) เวลา 13.00 น. ที่ สน.นางเลิ้ง นายสันติ เต๊ะเปีย ช่างภาพหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการ นายทศฤทธิ์ วัฒนราษฎร์ ช่างภาพสำนักข่าวทีนิวส์ เเละนายพัฒนศักดิ์ วรเดช ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เดินทางมาพร้อมนายชาญวิทย์ กรอบเพชร และนายศักดิ์ณรงค์ พวงศิริ ทนายความอาสาจากสภาทนายความ เข้าพบ ร.ต.ต.ภูวิศ ศรีอ่อน และ ร.ต.ต.หญิง วรณัน บุญยะประทีป พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อเเจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่บันทึกภาพระหว่างการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย ที่ผ่านมา และมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เเละแยกมิสกวัน
นายสันติ เต๊ะเปีย ช่างภาพเอเอสทีวีผู้จัดการกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดปะทะกันขึ้นในช่วงเช้า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งมารวมไว้ตรงจุดใกล้กับที่ตนนั่งพักอยู่กับเพื่อนช่างภาพอีก 2 คน ได้มีตำรวจนายหนึ่งเท่าที่ตนได้เห็นด้วยสายตาเดินเข้ามาเตะเสยปลายคางหนึ่งในผู้ชุมนุม แล้วหันมาเห็นกลุ่มพวกตนจึงไม่แน่ใจว่าเกิดความกลัวว่าพวกตนได้บันทึกภาพที่เห็นไว้ หรืออาจทำงานด้วยอารมณ์ที่เหนื่อยหรืออะไรทั้งสิ้น ได้เดินมาจับตนล็อกคอแล้วกดหัวลงทั้งๆ ที่ตนได้พยามยามแสดงบัตรสื่อมวลชน และปลอกแขนสีเหลืองแล้วก็ตาม แต่ตำรวจนายนั้นไม่สนใจแต่อย่างใด ได้จับตนกับเพื่อนช่างภาพรวม 3 คนขึ้นไปขังไว้บนรถตากแดดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงกว่า อีกทั้งตนยังได้รับบาดเจ็บที่แขนด้านซ้ายเป็นรอยช้ำเขียวจากการป้องกันตัวที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกคอลากไปกักขัง
นายสันติกล่าวอีกว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ไม่ได้เรียกร้องให้มาขอโทษ เพียงอยากให้เป็นคดีตัวอย่างในการทำงานของสื่อรุ่นน้องๆ ต่อไป เพื่อให้ระวังตัวในการทำงาน ให้เป็นบรรทัดฐานในการทำงานของสื่อ เพราะตำรวจก็ต้องพึ่งสื่อ อันไหนที่ห้ามเราก็ไม่ทำ และสื่อก็ต้องพึ่งตำรวจในการทำงานร่วมกัน โดยได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในข้อหาทำร้ายร่างกายเเละกักขังหน่วงเหนี่ยว เนื่องจากตนเเละเพื่อนช่างภาาพได้ถูกทำร้ายร่างกายเเละควบคุมไว้ในรถผู้ต้องขังก่อนที่เพื่อนสื่อมวลชนจะเจรจาจนเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวออกมาได้ ทั้งนี้ได้มีการนำเอกสารภาพถ่ายในวันเกิดเหตุมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและสอบสวนไปตามกระบวนการต่อไป
ขณะที่ นายเชษฐ์ สุขสมเกษม กรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อมวลชน กล่าวว่า ได้เข้ามาดูแลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนถูกทำร้ายร่างกาย คุกคาม หรือถูกรังแกทุกรูปแบบ โดยขั้นแรกจะเข้ามาดูแลเกี่ยวกับการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนว่าดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 3 คนมีทนายความดูแลอยู่แล้ว โดยสมาคมนักข่าวฯ ร่วมกับสภาทนายความจะจัดทนายความให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง รวมทั้งการขอทราบความคืบหน้าของคดี ทางสมาคมฯ จะจัดทนายความโดยที่สื่อมวลชนที่เสียหายจะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยถือว่าสื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข่าวสารไปสู่สื่อมวลชน การที่สื่อมวลชน 3 คนนี้ถูกละเมิดสิทธิก็ถือว่าประชาชนถูกละเมิดด้วย