ลำปาง - ผู้ว่าฯ ลำปางเรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมพร้อมรับมือไฟป่าปี 56 หลังมกราฯ-เมษาฯ 55 เกิดจุด Hot spot ถึง 1,426 ครั้ง
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง ประจำปี 2556 โดยมีคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 50 คนเข้าร่วมประชุม และมีการสรุปถึงปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไข และสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันของปี 2555 ที่ผ่านมา พร้อมร่วมกันพิจารณาแผนปฏิบัติการเพื่อวางแนวทางการดำเนินงานและมาตรการการป้องกันในปี 2556 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า
นายสมศักดิ์ ประเทศรัตน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง ได้สรุปถึงปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานในปี 2555 ว่า สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ จ.ลำปางคือ การเผาไร่ เผาเศษวัชพืช ในที่ดินทำกินของเกษตรกร ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่ผ่านมา จ.ลำปางมีพื้นที่ที่เกิด Hot spot ทั้งหมด 1,426 ครั้ง และมีค่าคุณภาพอากาศ PM10 เกินค่ามาตรฐาน จำนวน 33 วัน โดยมีค่าสูงสุดในวันที่ 26 ก.พ. 55 ที่ระดับ 279 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.
ขณะที่นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้สรุปถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อถือปฏิบัติร่วมกันในการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยขอให้ทางป้องกันจังหวัดลำปางได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ กำหนดภารกิจ อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ พร้อมเขียนโครงการขั้นตอนการดำเนินงาน เสนอต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อของบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล และจะได้นำงบประมาณนั้นมาจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรับสถานการณ์ปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องรีบดำเนินการก่อน
นอกจากนี้ ได้ให้หน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปยังท้องถิ่น หมู่บ้าน ชุมชน เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้แก่ชาวบ้าน และดึงชาวบ้านเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายตาสับปะรด คอยเฝ้าระวังไฟป่า และจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านต่างๆ ทั้งด้านการเกษตร ปลูกป่า สร้างฝาย ทำแนวกันไฟตามธรรมชาติ และการประกวดชุมชนสีเขียว
โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่มีหน้าที่หลักรับผิดชอบดำเนินการ ตลอดจนได้มอบหมายให้ทางจังหวัดออกประกาศควบคุมการเผาทุกชนิด หากใครทำการเผาจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายเพื่อจะได้เป็นคดีตัวอย่าง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่และหน่วยงานราชการห้ามทำการจุดไฟเพื่อทำการเผาโดยเด็ดขาด
