ศาลฎีกาคดีเลือกตั้งยกคำร้อง กกต.ขอจัดเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 ใหม่ แทน ฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร ส.ส.ปชป. ชี้พยานผู้ร้องเพียงปากเดียว เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่ง หลักฐานจึงมีน้ำหนักไม่เพียงพอ
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง วันที่ 15 พ.ย.นี้ ศาลนัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.7/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ยื่นต่อศาลขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.กาญจนบุรี แทนนายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร ส.ส.เขต 2 จ.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ผู้คัดค้าน ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 กรณีผู้สนับสนุนทางการเมืองของนายฉัตรพันธ์ได้นำเงินจำนวน 600 บาทไปซื้อเสียงเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้นายฉัตรพันธ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2554
ศาลพิเคราะห์แล้วมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า นายประเสริฐ สุพรรณโรจน์ ผู้สนับสนุนทางการเมืองของผู้คัดค้านได้ให้เงิน 600 บาทแก่นางสมพร จันทร์อักษร เพื่อนำไปแบ่งแก่บุคคลในครอบครัวซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับผู้คัดค้านหรือไม่ เห็นว่าฝ่่ายผู้ร้องมีนางสมพรเป็นพยานเพียงปากเดียวที่อ้างว่ารู้เห็นขณะนายประเสริฐนำเงินมาให้ โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน ทั้งในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2554 นางสมพรได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.กาญจนบุรี ให้เป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 17 หมู่ที่ 14 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี แต่กรณีนี้ได้ความว่า นางสมพร และนางงามจิต โพธิ์ชื่น พยานผู้ร้อง ต่างเป็นผู้สนับสนุนผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับผู้คัดค้าน เมื่อนายประเสริฐนำเงินมาซื้อเสียง นางสมพรกลับมิได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อ กกต. หรือเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อดำเนินคดีต่อนายประเสริฐ แต่นำเงินจำนวนดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ส่วนตน หากนายประเสริฐนำเงินไปให้นางสมพรเพื่อซื้อเสียงให้ผู้คัดค้านจริงก็เป็นการนำเงินไปมอบให้ผู้สนับสนุนคู่แข่งทางการเมือง ย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการจะถูกดำเนินคดี หากผู้คัดค้านได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ก็เสี่ยงที่จะถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้ จึงไม่น่าเชื่อว่านายประเสริฐจะนำเงินไปมอบให้นางสมพรเพื่อซื้อเสียงให้ผู้คัดค้านตามที่กล่าวอ้าง
เมื่อพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องและผู้คัดค้านแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเห็นว่า กรณียังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดตามมาตรา 53 (1) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 อันจะทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้คัดค้านมิได้เป็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรมแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
