ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งเพิกถอนการสรรหา “ศรีสุข” ส.ว.สรรหาโควตาจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ พร้อมสั่งให้สรรหาใหม่ในส่วนผู้คัดค้าน แต่ไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จ่อฟัน “สัก กอแสงเรือง” คิวต่อไป 1 ส.ค.นี้
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 55 ศาลได้อ่านคำสั่งคดีดำ ลต.(ส.ว.) 2/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี นายศรีสุข รุ่งวิสัย ผู้คัดค้านกรณี กกต.เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายศรีสุข เนื่องจาก กกต.ได้รับบัตรสนเท่ห์ว่านายศรีสุขเป็นผู้เสียสิทธิและไม่ได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52 เมื่อ กกต.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เดิมนายศรีสุขมีภูมิลำเนาใน จ.นนทบุรี และเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี นายศรีสุขไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต่อมานายศรีสุขย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่เขตบางแค กทม. โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 53 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) การเลือกตั้ง 2 ประเภท กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งแตกต่างกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก.จะต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ข.จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน นายศรีสุขแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก. แต่ตรวจสอบแล้วพบว่านายศรีสุขมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เขตบางแคไม่ถึง 1 ปี ดังนั้น นายศรีสุขจึงเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก. จึงถือว่าก่อนวันลงทะเบียนเข้ารับสรรหาเป็น ส.ว. นายศรีสุขเป็นผู้เสียสิทธิเลือกตั้ง เพราะไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด นายศรีสุขได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนฟังคำสั่งออกไป โดยรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่ศาลวินิจฉัยแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็น ให้ยกคำร้องและให้อ่านคำสั่งทันที
โดยศาลฎีกาฯ พิเคราะห์แล้ววินิจฉัยว่า กกต.มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ เนื่องจากมีอำนาจยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 238 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 โดยยื่นภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันประกาศรับรองผลการสรรหา ส.ว.เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 54
โดยคดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้คัดค้านขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้าเพื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว.หรือไม่ เห็นว่า แม้ผู้คัดค้านไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52 โดยไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นเหตุให้เสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แต่ต่อมาในคราวที่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) วันเดียวกันในวันที่ 29 ส.ค.53 ซึ่งผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก. เพราะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่ครบระยะเวลาที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 กำหนดไว้ คงมีสิทธิเลือกตั้งเฉพาะ ส.ข.เพียงอย่างเดียว ผู้คัดค้านไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่มีหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิต่อผู้อำนวยการเขตบางแค เห็นว่า กำหนดระยะเวลาการเสียสิทธิตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งถัดมาจริงๆ เท่านั้น ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงยังเป็นผู้เสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. การที่สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยเสนอชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้เข้ารับการสรรหาเป็นส.ว. จึงไม่เป็นไปตามกฎหมาย มีผลให้การสรรหา ส.ว.เป็นไปโดยไม่ถูกต้อง โดยผู้คัดค้านเข้าใจคลาดเคลื่อนเองว่า เมื่อไม่ได้ไปเลือกตั้ง ส.ข.แล้วได้ทำหนังสือแจ้งเหตุผลไปถึงผู้อำนวยการเขตบางแค แม้จะไม่มีหนังสือตอบกลับว่าเหตุผลดังกล่าวไม่มีเหตุอันควร ผู้คัดค้านจึงเข้าใจว่าตนยังไม่เสียสิทธิ กรณียังฟังไม่ได้ว่าผู้คัดค้านยินยอมให้สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ เสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.โดยไม่สุจริต จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้คัดค้านตามคำร้อง
อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 240 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 134 จึงคำสั่งให้เพิกถอนการสรรหา ส.ว.ในส่วนของนายศรีสุข รุ่งวิสัย ผู้คัดค้าน และให้มีการสรรหา ส.ว.ใหม่ในส่วนของผู้คัดค้าน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังพิพากษาแล้ว นายศรีสุขรีบเดินออกจากอาคารศาลฎีกาไปที่ลานจอดรถทันที โดยระบุสั้นๆ ว่า โอเคครับ สำหรับนายศรีสุข ผู้นี้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ส.ว.สรรหาจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย กกต.มีมติเอกฉันท์ให้เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายศรีสุข เป็นผู้เสียสิทธิการเลือกตั้งตามมาตรา 26 ประกอบมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.
ส่วนคดีหมายเลขดำที่ ลต.(ส.ว.) 1/2555 กรณีของนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ที่ถูกกกต.เพิกถอนสิทธิการสรรหาด้วยมติเอกฉันท์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา กรณีที่นายสักพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง หรือพ้นจาก ส.ว.ชุดเลือกตั้งปี 2543 มายังไม่ถึง 5 ปี จนถึงวันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดฟังคำสั่งวันที่ 1 ส.ค.นี้ เวลา 14.30 น.
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 55 ศาลได้อ่านคำสั่งคดีดำ ลต.(ส.ว.) 2/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี นายศรีสุข รุ่งวิสัย ผู้คัดค้านกรณี กกต.เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายศรีสุข เนื่องจาก กกต.ได้รับบัตรสนเท่ห์ว่านายศรีสุขเป็นผู้เสียสิทธิและไม่ได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52 เมื่อ กกต.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เดิมนายศรีสุขมีภูมิลำเนาใน จ.นนทบุรี และเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี นายศรีสุขไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต่อมานายศรีสุขย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่เขตบางแค กทม. โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 53 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) การเลือกตั้ง 2 ประเภท กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งแตกต่างกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก.จะต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ข.จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน นายศรีสุขแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก. แต่ตรวจสอบแล้วพบว่านายศรีสุขมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เขตบางแคไม่ถึง 1 ปี ดังนั้น นายศรีสุขจึงเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก. จึงถือว่าก่อนวันลงทะเบียนเข้ารับสรรหาเป็น ส.ว. นายศรีสุขเป็นผู้เสียสิทธิเลือกตั้ง เพราะไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด นายศรีสุขได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนฟังคำสั่งออกไป โดยรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่ศาลวินิจฉัยแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็น ให้ยกคำร้องและให้อ่านคำสั่งทันที
โดยศาลฎีกาฯ พิเคราะห์แล้ววินิจฉัยว่า กกต.มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ เนื่องจากมีอำนาจยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 238 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 โดยยื่นภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันประกาศรับรองผลการสรรหา ส.ว.เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 54
โดยคดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้คัดค้านขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้าเพื่อเข้ารับการสรรหา ส.ว.หรือไม่ เห็นว่า แม้ผู้คัดค้านไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52 โดยไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นเหตุให้เสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แต่ต่อมาในคราวที่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) วันเดียวกันในวันที่ 29 ส.ค.53 ซึ่งผู้คัดค้านไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก. เพราะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่ครบระยะเวลาที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 กำหนดไว้ คงมีสิทธิเลือกตั้งเฉพาะ ส.ข.เพียงอย่างเดียว ผู้คัดค้านไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่มีหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิต่อผู้อำนวยการเขตบางแค เห็นว่า กำหนดระยะเวลาการเสียสิทธิตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งถัดมาจริงๆ เท่านั้น ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงยังเป็นผู้เสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. การที่สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยเสนอชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้เข้ารับการสรรหาเป็นส.ว. จึงไม่เป็นไปตามกฎหมาย มีผลให้การสรรหา ส.ว.เป็นไปโดยไม่ถูกต้อง โดยผู้คัดค้านเข้าใจคลาดเคลื่อนเองว่า เมื่อไม่ได้ไปเลือกตั้ง ส.ข.แล้วได้ทำหนังสือแจ้งเหตุผลไปถึงผู้อำนวยการเขตบางแค แม้จะไม่มีหนังสือตอบกลับว่าเหตุผลดังกล่าวไม่มีเหตุอันควร ผู้คัดค้านจึงเข้าใจว่าตนยังไม่เสียสิทธิ กรณียังฟังไม่ได้ว่าผู้คัดค้านยินยอมให้สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ เสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.โดยไม่สุจริต จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้คัดค้านตามคำร้อง
อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 240 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 134 จึงคำสั่งให้เพิกถอนการสรรหา ส.ว.ในส่วนของนายศรีสุข รุ่งวิสัย ผู้คัดค้าน และให้มีการสรรหา ส.ว.ใหม่ในส่วนของผู้คัดค้าน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังพิพากษาแล้ว นายศรีสุขรีบเดินออกจากอาคารศาลฎีกาไปที่ลานจอดรถทันที โดยระบุสั้นๆ ว่า โอเคครับ สำหรับนายศรีสุข ผู้นี้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ส.ว.สรรหาจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย กกต.มีมติเอกฉันท์ให้เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายศรีสุข เป็นผู้เสียสิทธิการเลือกตั้งตามมาตรา 26 ประกอบมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.
ส่วนคดีหมายเลขดำที่ ลต.(ส.ว.) 1/2555 กรณีของนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ที่ถูกกกต.เพิกถอนสิทธิการสรรหาด้วยมติเอกฉันท์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา กรณีที่นายสักพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง หรือพ้นจาก ส.ว.ชุดเลือกตั้งปี 2543 มายังไม่ถึง 5 ปี จนถึงวันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดฟังคำสั่งวันที่ 1 ส.ค.นี้ เวลา 14.30 น.