โฆษก ตร.แถลงข่าว “ผบ.ตร.” ตรวจเวรรักษาความปลอดภัยในพระตำหนัก ชี้ยังขาดแคลนกำลังพล เตรียมขอกำลังสนับสนุนจากภาค 1, 6, 8 โดยขอชั้นประทวนภาคละ 24 นายรวม 168 นายให้ส่งตัวให้ บช.น.ขอเวลาช่วยราชการระยะสั้น 6 เดือน ส่วนระยะยาวให้ไปศึกษาหลักเกณฑ์การรับทหารกองหนุนไปทำงานในภาคใต้ ให้มาปรับใช้ใน บช.น.ด้วยให้เป็นแนวทางเดียวกัน อีกเรื่องสั่งเข้มงวดเรื่องการรจุดพลุช่วงเทศกาลออกพรรษา พร้อมขีดเส้นคดีรับจำนำข้าวส่งสำนวน 8 คดีให้อัยการพิจารณาให้ทัน 15 พ.ย.นี้ อีกเรื่องได้สั่งให้เพิ่มเงินสวัสดิภารช่วยเหลือตำรวจที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนจากการปฏิบัติหน้าที่ จาก 2 แสนบาทเป็น 5 แสนบาท
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ (30 ต.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.พร้อมด้วยพ.ต.อ.อนุชา รมยะนันทน์รองโฆษก ตร. แถลงข่าวว่า ผบ.ตร.ได้ลงไปตรวจเวรรักษาความปลอดภัยที่พระตำหนักต่างๆ พบว่าตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชนยังขาดแคลนอยู่ ให้ขอกำลังสนับสนุนจากภาค 1, 6, 8 โดยขอชั้นประทวนภาคละ 24 นาย รวม 168 นายให้ส่งตัวให้ บช.น.ขอเวลาช่วยราชการระยะสั้น 6 เดือน ส่วนระยะยาวให้ไปศึกษาหลักเกณฑ์การรับทหารกองหนุนไปทำงานในภาคใต้ ให้มาปรับใช้ใน บช.น.ด้วยให้เป็นแนวทางเดียวกัน
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะแถลงข่าวว่า ช่วงออกพรรษา และเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึง ปีที่ผ่านมามีประชาชนไดัรับบาดเจ็บจากดอกไม้เพลิง ผบ.ตร.ได้กำชับทุกหน่วยให้ประสานข้อมูลการขอใบอนุญาติผลิตดอกไม้เพลิงว่ามีหรือไม่ มีปฏิบัติตามใบอนุญาตหรือไม่ ตลอดจนดูแลเรื่องการผลิต การขนส่ง และให้ร่วมกับพนักงานส่วนท้องถิ่นดูเรื่องสถานที่ ที่ไม่เหมาะกับการเล่นดอกไม้เพลิงก็จะได้สั่งห้าม
ด้าน พ.ต.อ.อนุชากล่าวว่า ตำรวจร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะออกกวดขันจับกุมสินค้าปลอม ไม่ว่าจะเป็นสุรา กาแฟ น้ำหอม ผงซักฟอก ของใช้ต่างๆ ที่จะมีเยอะในท้องตลาด และได้ประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการตลาดต่างๆ ป้องกันการจำหน่ายสินค้าปลอมและให้จับกุมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
อีกเรื่อง พล.ต.ต.ปิยะแถลงความคืบหน้าการรับจำนำข้าวว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผบ.ตร.สั่งการไปทุกภาค รีบดำเนินการคดีเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 30 คดี เสนออัยการไปแล้ง 22 คดี เหลือ 8 คดีให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้และให้ไปตรวจสอบว่ามีการทุจริตอื่นๆ อีกหรือไม่ นอกจากนี้ยังสั่งให้ไปตรวจสอบเรื่องการขนข้าวมาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย
พล.ต.ต.ปิยะแถลงอีกว่า ผบ.ตร.ได้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสวัสดิการตำรวจ เดิม 2 แสนบาทซึ่งถือว่าน้อยไป ได้สั่งการให้ให้สหกรณ์ทุกที่เจียดกำไรมาสนับสนุนเพิ่มเติมได้ปีละ 56 ล้านบาท จะได้เงินมาเป็นสวัสดิการตำรวจเพิ่มจาก 2 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท