ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์ควบคุมการบินจับมือการไฟฟ้าฯ เตรียมนำปัญหาโคมลอยเข้าที่ประชุมส่วนราชการเชียงใหม่ก่อนแถลงข่าวประชาชน ระบุไม่ได้กระทบแค่การบินแต่ซากโคมทำไฟช็อต-สายไฟพังด้วย เล็งเสนอ 2 แนวทางกำหนดจุดปล่อยโคมกับรณรงค์ใช้โคมรุ่นใหม่ ด้านผู้ว่าฯ รับปัญหาโคมลอยแก้ยากเหตุกลายเป็นของฮิต เตรียมหารือหน่วยงานหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว
นายเกียรติศักดิ์ เรียนวัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเตรียมการเพื่อรองรับปัญหาการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการทำการบินในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากโคมลอยที่ลอยสูงนั้น หากเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบินจะทำให้เครื่องยนต์เกิดการระเบิดและทำให้เครื่องบินตกได้
ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ และการท่าอากาศยานเชียงใหม่ยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยไม่ครบถ้วน เช่น มีการปล่อยโคมลอยในช่วงเวลาที่กำหนดห้าม หรือปล่อยในพื้นที่การบินโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ส่งผลให้เกิดปัญหาต่อการทำการบินในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งจะมีปริมาณเครื่องบินที่มาเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่มากกว่าปกติ
นอกจากนี้ การปล่อยโคมลอยยังส่งผลกระทบไปถึงระบบไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เนื่องจากซากของโคมลอยที่ตกลงมาโดนสายไฟฟ้าทำให้เกิดการลัดวงจรและไฟดับ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสูญเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง
จากกรณีดังกล่าว ทางศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ จึงเตรียมที่จะนำปัญหานี้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 10/2555 ในวันที่ 30 ต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยจะหารือถึงแนวทางในการหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้ปัญหาจากการปล่อยโคมลอยเกิดขึ้น ต่อจากนั้นทั้งสองหน่วยงานจะได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดจากการปล่อยโคมลอยและแนวทางในการแก้ปัญหา ในวันที่ 6 พ.ย. 2555
ความเคลื่อนไหวของศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ที่จะมีขึ้นนั้น ถือเป็นความพยายามล่าสุดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการทำการบินในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเกิดความไม่มั่นใจต่อการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่และทำให้เกิดการยกเลิกหรือเลื่อนเที่ยวบินขึ้น
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งรณรงค์ให้ลวดเหล็กเป็นวัสดุในการประกอบโคมลอย เนื่องจากเมื่อโคมลอยตกลงมาอาจพาดเข้ากับสายไฟจนทำให้ไฟดับ หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้ รวมทั้งจะประกาศให้ประชาชนงดการปล่อยโคมลอยในช่วงที่การท่าอากาศยานเชียงใหม่ประกาศห้าม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำการบิน
ทั้งนี้ นายานินทร์กล่าวยอมรับต่อสื่อมวลชนว่า มาตรการต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ เนื่องจากในปัจจุบันการปล่อยโคมลอยได้กลายเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและปฏิบัติกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่โคมลอยเองได้กลายเป็นสินค้าที่มีการผลิตและซื้อขายกันเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางต่างๆ ที่จำเป็น ในการป้องกันและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทงให้ได้มากที่สุด รวมทั้งกำหนดแผนเพื่อปฏิบัติในระยะยาวต่อไปด้วย
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่เตรียมที่จะนำเสนอต่อประชาชนนั้น นายเกียรติศักดิ์กล่าวว่า จะประกอบด้วยแนวทางหลักรวม 2 ข้อ ได้แก่ 1. การกำหนดจุดปลอดภัยที่ประชาชนสามารถปล่อยโคมลอยได้โดยไม่กระทบกับเส้นทางการบิน และการแจ้งข้อมูลการปล่อยโคมลอยล่วงหน้า ทั้งสถานที่และปริมาณ เพื่อให้ศูนย์ควบคุมการบินสามารถวางแผนและแจ้งเตือนไปยังนักบินที่นำเครื่องบินเข้ามาในพื้นที่ในช่วงเวลานั้นๆ ได้ กับ 2. การรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้โคมลอยแบบใหม่ที่การฟ้าส่วนภูมิภาคได้ทำการค้นคว้าและประดิษฐ์ขึ้น ด้วยการใช้วัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสายไฟและไม่ลอยสูงจนกระทบกับการบินของเครื่องบิน อีกทั้งราคายังใกล้เคียงกับโคมลอยตามปกติ ซึ่งหากประชาชนหันมาใช้โคมลอยชนิดใหม่นี้ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาจากโคมลอยไปได้มากพอสมควร
นายเกียรติศักดิ์ระบุว่า ทั้ง 2 แนวทางเป็นข้อเสนอที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะชี้แจงต่อประชาชน เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงผลกระทบจากการปล่อยโคมลอย ส่วนมาตรการอื่นๆ อย่างเช่นการกำหนดช่วงเวลาหรือการขอความร่วมมือ ในการงดใช้ลวดในการประดิษฐ์โคมลอยนั้นต้องขอให้ทางจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรการในทางปฏิบัติและการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบต่อไป