xs
xsm
sm
md
lg

ผวาตลิ่งพังต้องรื้อบ้านหนี น้ำป่าทะลักเหนืออ่วมหลายจว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ชาวจำปาหล่อ" เมืองอ่างทองผวาหนัก รื้อบ้านหนีหลังตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาพังลงแม่น้ำไม่หยุดจนเกือบถึงเสาบ้าน ครวญขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐแล้วแต่กลับถูกเมิน เผยอีก 2 หลังเตรียมย้ายตาม ขณะที่ฝนถล่มเหนือไม่หยุด น้ำป่าทะลักท่วมขยายวงกว้าง ทั้งดินภูเขาถล่ม ตลิ่งริ่มแม่น้ำทรุด เร่งอพยพชาวบ้าน เส้นทางรถไฟลำพูนที่พังยังใช้ไม่ได้ ต้องเดินรถแค่ลำปาง เร่งระดมสรรพกำลังซ่อมแซมต่อเนื่อง เตือนชาว "ปากน้ำโพ" เตรียมรับมือน้ำป่า

เมื่อเวลา 08.30. น.วานนี้ (9 ก.ย.) เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ อบต.จำปาหล่อ พร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ลงสำรวจพื้นที่ตรวจสอบตลิ่งทรุดสไลด์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ในพื้นที่บริเวณหมู่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยมีบ้านเรือนประชาชนที่เก็บข้าวของย้ายไปอยู่ที่บ้านญาติ 1 หลัง ส่วนอีก 2 หลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่ต้องรื้อถอนบ้านเช่นกัน ทำให้เจ้าของบ้านเกิดอาการเครียดหนัก หลังจากเคยย้ายหนีมาเมื่อปี 54 ยังใช้หนี้ค่าสร้างบ้านทันไม่หมด ต้องมารื้อบ้านหนีตลิ่งพังครั้งที่ 2 อีก

น.ส.นัฐยา ทับตรง อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 36 หมู่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง เผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมาบ้านตนได้พังลงน้ำเสียหายและได้ย้ายมาอยู่ที่ด้านบนติดกับถนน คิดว่าปลอดภัยแล้ว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาดินที่ริมตลิ่งหน้าบ้านได้พังต่อเนื่อง หวั่นว่าจะลุกลามถึงบ้านที่ตนปลูกขึ้นมาใหม่

“ตอนนี้เครียดหนักมากถึงกับนอนไม่หลับ เนื่องจากหนี้เก่าที่กู้มาปลูกบ้านยังใช้หนี้ไม่หมดเลย และที่อยู่ตรงนี้เป็นที่ดินพื้นสุดท้าย ถ้าพังจมลงน้ำก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ยอมรับว่าเครียดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย”

นายฉัตรชัย เย็นทรวง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองอ่างทอง เผยว่า จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านที่ต้องรื้อถอนหนีภัยธรรมชาติตลิ่งทรุดลงเจ้าพระยาต่อเนื่องเป็นจำนวน 3 หลัง ได้แก่บ้านนางกุหลาบ ถนอมวงษ์ เลขที่ 53 หมู่ 1 บ้านนางนัฐยา ทับตรงเลขที่ 36 หมู่ 1 ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดที่เตรียมรื้อถอน และบ้านนางอุไร เทพดุง เลขที่ 53/1 หมู่ 1 ที่ย้ายข่าวของไปหมดแล้วเตรียมที่จะรื้อถอน ส่วนคันดินที่ป้องกันน้ำท่วมนั้นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน เนื่องจากน้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้นและคันดินได้พังสไล้ด์ลงเจ้าพระยา ถ้าดำเนินการแก้ไขล่าช้าหวั่นว่าน้ำที่ล้นตลิ่งจะเอ่อไหลเข้าท่วมหมู่บ้านประชาชนได้รับความเดือดร้อนแน่นอน

**รื้อหนีแล้วหลังแรก-ครวญรัฐไม่ช่วย

ต่อมาเวลา 13.00 น.นางอุไร เทพผดุง พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาช่วยกันเร่งรื้อบ้านทรงไทยเลขที่ 53/1 แล้ว หลังตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพังลงน้ำอย่างต่อเนื่อง และไม่มีท่าที่ที่จะหยุดทำให้ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้เนื่องจากกลัวบ้านพัวลงไปในน้ำทั้งหลัง โดยได้ย้ายสิ่งของไปอยู่บ้านญาติใน อ.ป่าโมก นานกว่าสัปดาห์และได้ย้อนมารื้อบ้านของตนไปกองเก็บไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน

นางอุไร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลังตลิ่งพังลงแม่น้ำเจ้าพระยาไปกว่า 2 ปี ตนเองได้ของความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงาน ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ลงมาดู แต่ก็ไม่มีใครช่วยเหลือได้ พอเป็นข่าวก็ลงมาตรวจกันทีแล้วก็เงียบไป จนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านหน้าอีกกว่า 10 หลังย้ายบ้านหนีไปหมดแล้ว เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วดินพังลงไปอย่างต่อเนื่องจนเกือบถึงตัวบ้านทำให้ต้องหนีไปอาศัยบ้านญาติอยู่ก่อนและกลับมารื้อบ้าน ไม่รอให้หน่วยงานของรัฐมาช่วยเหลือ เนื่องจากหากรอบ้านของตนก็คงพังลงไปในน้ำอย่างแน่นอน

**อ่างทองเริ่มท่วมแล้วที่ "ต.โผงเผง"

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมชาวบ้านพื้นที่หมู่ 6 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว หลังน้ำจากคลองโผงเผง คลองสาขา แม่น้ำเจ้าพระยา ได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านสูงกว่า 60 ซม. ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมขนย้านของขึ้นที่สูง หลังทางเขื่อนเจ้าพระยา จะระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที และอาจจะทำให้น้ำล้นตลิ่ง โดยสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดวัดได้ 6.74 เมตรที่ อ.ป่าโมกสูง 7.74 เมตร มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว

**พิจิตรน้ำป่าทะลักท่วมหลายตำบล

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือหลายจังหวัดได้รับผลกระทบขยายวงกว้างมากขึ้น โดยที่ จ.พิจิตร วานนี้ (9 ก.ย.) นายพิศ วิริยะอารีธรรม ส.อบจ.เขต อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร พร้อมด้วยนายประภาส คงแตง นายอำเภอสากเหล็ก จ.พิจิตร ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่เหตุเนื่องมาจากขณะนี้ ยังคงมีฝนที่ตกหนักติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดน้ำเหนือจากด้าน อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม ของ จ.พิษณุโลก ไหลบ่าลงมาตามลำคลอง เข้าท่วมไร่นา และบ้านเรือนราษฎร ในเขตพื้นที่ อ.สากเหล็ก นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลไปเข้าลำคลองห้วยหิน ต.สายคำโห้ และคลองไดชุมแสง ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองพิจิตร ทำให้เกิดน้ำท่วมด้วยเช่นกัน

อีกทั้งน้ำป่าที่มีปริมาณมากยังได้ไหลท่วมทางหลวงชนบท หมายเลข พจ.2033 บ้านหนองไผ่-หนองนาดำ และท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณหมู่ 3 ถึง หมู่ 6 รวม 4 หมู่บ้าน ของ ต.บ้านบุ่ง จำนวนกว่า 50 หลังคาเรือน ก็ถูกน้ำท่วมใต้ถุนบ้านด้วยเช่นกัน โดยระดับน้ำมีความถึงสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ส่งผลให้นาข้าวกว่า 1 พันไร่ ต้องถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน ล่าสุด นายประเวศน์ ศิริศิลป์ ผอ.ชลประทานจังหวัดพิจิตร ได้สั่งเร่งเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวลงสู่แม่น้ำน่าน จึงทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว

**รางรถไฟลำพูนยังขาด-ระดมซ่อม

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกรณีเกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่ จ.ลำพูน ส่งผลให้เกิดมีน้ำป่าจากยอดดอยขุนตาล ไหลลงมากัดเซาะดินที่รองรับใต้รางรถไฟ ทรุดตัวลงไหลไปกับน้ำเป็นระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร และเป็นเหวลึก 50 เมตรเป็นเหตุให้ทางรถไฟและหมอนรองรางรถไฟลอยตัวอยู่ในอากาศ ซึ่งเหตุเกิดระหว่างสถานีขุนตานและสถานีทาชมพู บริเวณบ้านขุนตาล หมู่ 8 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน หลัก กม.ที่ 684/13-15 ทำให้รถไฟสายเหนือระหว่างสถานีขุนตานที่จะเดินทางไปยัง จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ ต้องหยุดเดินรถชั่วคราว โดยรถไฟสามารถวิ่งไปได้แค่สถานีลำปางเท่านั้น

ส่วนที่สถานีรถไฟลำพูน ถนนเจริญตา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน บรรยากาศทั่วไปเงียบเหงา มีเพียงพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการตอบข้อมูลอย่างต่อเนื่องแก่ประชาชน โดยนายประชัย ไพรศรี รักษาการนายสถานีรถไฟลำพูน เปิดเผยว่า ณ วันนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย สถานีรถไฟนครลำปาง ร่วมกับ อบจ.ลำพูน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ฝ่ายช่างบำรุง และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกว่า 100 นายนำแบคโฮ 9 คันถมดินให้สูงขึ้น และวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมขุดเปิดเส้นทางให้น้ำไหล ทั้งนี้ การซ่อมแซมรางรถไฟคืบหน้าไปแล้วประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 10 วันขึ้นอยู่กับว่าฝนจะตกเพิ่มอีกหรือไม่

**ฝนถล่มแพร่ริมตลิ่งแม่น้ำยมทรุด

ที่ จ.แพร่ หลังฝนตกหนักทำให้ตลิ่งแม่น้ำยม ที่บ้านปงน้อย หมู่ 9 ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น เกิดทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ทำให้ชาวบ้านซึ่งมีบ้านเรือนประมาณ 10 หลังคาเรือน อยู่ติดกับแม่น้ำยมต้องเร่งขนของหนีออกจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าอีกหลายต้นที่อยู่ใกล้แม่น้ำยม ซึ่งการไฟฟ้าฯ ได้มาตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าจะทำการรื้อถอนในวันจันทร์นี้

**ถนนทาง120เด่นชัย-อุตรดิตถ์เดี้ยง

ที่ จ.อุตรดิตถ์ น้ำป่าไหลจากภูเขาหลากลงสู่ห้วยน้ำไคร้ ทะลักท่วมผิวจราจรสูงกว่า 30 ซม.ที่หลัก กม.120 ถนนทางหลวงหมายเลข 11 (สายเอเชีย) เด่นชัย-อุตรดิตถ์ ทั้งทางเข้าและขาออกเมืองอุตรดิตถ์ บริเวณหมู่ 5 บ้านแม่เฉย ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ ระยะทางยาวกว่า 1 กม.เจ้าหน้าที่ต้องระดมทั้งป้าย สัญญาณไฟไซเรน ตั้งจุดแจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสายดังกล่าว
นอกจากนี้น้ำจากห้วยน้ำไคร้ ยังทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านหมู่ 9 บ้านห้วยไคร้ และหมู่ 5 บ้านแม่เฉย ชาวบ้านเร่งเก็บสิ่งของทรัพย์สินไว้ที่สูง โดยเฉพาะที่หมู่ 9 บ้านห้วยไคร้ กระแสน้ำยังกัดเซาะถนนและสะพานในหมู่บ้านทรุดตัว ปริมาณน้ำฝนที่สะสมอยู่ในภูเขาเกิดการสไลด์ลงมาทับถนนในหมู่บ้านหลายจุด ชาวบ้านต้องเร่งเปิดเส้นทางการสัญจร

**ดินสไลด์ปิดถนนที่ลับแลกว่า50จุด

ขณะที่นายชลิต ธนวัฒน์ รองนายก อบจ.อุตรดิตถ์ พร้อมนายจรูญ ปัญญายงค์ นายก อบต.แม่พูล ได้เข้าตรวจสอบถนนบ้านมหาราช หมู่ 11 ต.แม่พูล อ.ลับแล หลังชาวบ้านแจ้งว่า หลังฝนตกหนักที่หมู่บ้านมหาราช ทำให้ดินจากภูเขาสไลด์ลงมาปิดถนน จากการตรวจสอบพบว่าเส้นทางดังกล่าวมีความยาวกว่า 10 กม.มีร่องรอยดินสไลด์ลงมาปิดเส้นทางกว่า 50 จุด ทำให้ชาวสวนที่กำลังตัดผลผลิตทุเรียน ลางสาด และลองกอง ออกมาจำหน่ายให้แก่พ่อค้าไม่ได้ สร้างความเสียหายประมาณวันละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งนายชลิต ได้สั่งการให้นำเครื่องจักรกลหนักของ อบจ.ที่กำลังทำงานอยู่ที่ อ.ทองแสนขัน เข้าพื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางเพื่อให้เกษตรกร สามารถนำผลผลิตออกมาจำหน่ายได้ก่อนที่จะเน่าเสียหายไปมากกว่านี้แล้ว

นายสุรชัย ธัชกวิน ปภ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้ประกาศให้ อ.ลับแล และ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัย หลังพบฝนตกหนักต่อเนื่องและประกาศให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม ต่อไปอีกกึงวันที่ 11 ก.ย.นี้ และได้เร่งสำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเบื้องต้นแล้ว

**เตือน"นครสวรรค์"เตรียมรับมือน้ำป่า

ส่วนในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อ.แม่วงก์ ไหลหลากเข้าท่วมสถานที่ท่องเที่ยวแก่งเกาะใหญ่ และบ้านเรือนประชาชน ทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขต ต.วังซ่าน ต.เขาชนกัน อ.แม่วงก์ และ ต.หนองนมวัว ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว น้ำได้เอ่อล้นคลองส่งน้ำเข้าท่วมนาข้าวเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ทำให้อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ติดป้ายประกาศเตือนนักท่องเที่ยวห้ามเล่นน้ำ และเข้าท่องเที่ยวชั่วคราว เนื่องจากมีน้ำป่าเข้าในพื้นที่และกระแสน้ำก็ไหลเชี่ยว

นายวิศาล วสุนธาราพร ผอ.ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า น้ำป่าจากแม่วงก์จะค่อยๆ ไหลลงมาที่ อ.ลาดยาว จึงแจ้งเตือนประชาชนบ้านหนองกระดูกเนื้อ บ้านหนองนมวัว ม.1 ม.5 และ ม.15 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมวลน้ำส่วนใหญ่ก็จะไหลบ่าออกทุ่งนาไป ไม่น่าเกิน 3 วันก็คงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ มวลน้ำป่าดังกล่าวจะไหลลง คลองวังม้า อ.ลาดยาว ไปสมทบกับแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น