xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอบุกจับแชร์ลูกโซ่น้ำหอมย่านพระราม 9

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวบผู้ต้องหา
ดีเอสไอ พร้อมกำลัง ตร.มักกะสันกว่า 30 คน บุกเข้าจับกุมบริษัทแชร์ลูกโซ่น้ำหอม ข้อหาหลอกลวง และฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายหลายร้อยคนตกเป็นเหยื่อ!


วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักดคีอาญาพิเศษ 1 พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.มักกะสัน พ.ต.ท.กัมพล รัตนประทีป เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จำนวนกว่า 30 คน นำหมายค้นของศาลอาญาเข้าตรวจค้นตึกเลขที่ 338 อาคารดี.ซี.เอช.แอล. ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ หลังได้รับร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวได้เปิดเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่น้ำหอม หลอกลวง และฉ้อโกงประชาชน เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารขนาดใหญ่มี 8 ชั้น เป็นตึกออฟฟิศไว้สำหรับเปิดขายสินค้าจำพวกน้ำหอม และของใช้ทั่วๆ ไปหลายรายการ ซึ่งเป็นที่นัดพบปะกันระหว่างแม่ข่าย และลูกข่ายเป็นกลุ่มๆ ตามสายของกลุ่มเป็นลูกโซ่ มีผู้คนเป็นจำนวนมากหลายร้อยคน ส่วนตึกด้านหลังนั้นไว้สำหรับเก็บบัญชีสต๊อกสินค้า และรายรับ-รายจ่ายทำบัญชีการเงินทั้งหมด จากการตรวจสอบพบว่า มียอดเงินหมุนเวียนวิ่งเข้ามาในบัญชีเฉพาะเดือนกันยายนเดือนเดียว ทั้งสิ้น 139 ล้านบาท และสำหรับวันนี้มียอดเงินวิ่งเข้ามา จำนวน 39 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดเอกสารทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

พ.ต.อ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำหมายค้นเพื่อมาตรวจสอบหาหลักฐานจากคอมพิวเตอร์ ปริมาณสินค้า จำนวนลูกค้า และทรัพย์สินต่างๆ โดยบริษัทดังกล่าวได้เปิดเป็นบริษัทผลิต และจำหน่ายน้ำหอมระเหย โดยวิธีการหลอกให้นำเงินมาลงทุน ด้วยวิธีการหลอกให้หลงเชื่อโฆษณาเชิญชวนว่าได้ดอกผลที่ตอบแทนจากการลงทุนเกินจริง หรือเรียกว่าฉ้อโกงประชาชนด้วยจิตวิทยาหมู่ ที่เดินทางมาวันนี้เพราะทราบว่า ตัวการใหญ่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เดินทางกลับเข้ามา 1 คน ทราบชื่อนายฮวง เชียง เซียง อายุ 43 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน ตามหมายจับ จึงรีบมาควบคุมตัวพร้อมขอตรวจค้นทันที ซึ่งตัวการใหญ่มีทั้งหมด 3 คน ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้แจ้งว่า สามารถควบคุมตัวได้แล้ว 2 ราย ชื่อ น.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี สัญชาติจีน และ น.ส.หว่อง คิน ซีย อายุ 36 ปี สัญชาติจีน อยู่ระหว่างการสอบสวน

พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวอีกว่า ได้ออกหมายจับไปแล้ว จำนวน 20 คน ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ชาวต่างชาติ 3 ราย อีก 17 ราย นั้นเป็นคนไทย เรียกว่าแม่ข่าย ซึ่งยังมีศูนย์ใหญ่อีกที่อยู่จังหวัดนครราชสีมา โดยคนไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารด้วยการขึ้นเวทีพูดชักชวนหลอกลวงลูกค้าให้มาลงทุน ตามเกณฑ์การลงทุนเป็นระดับๆ แบ่งซอยย่อยตามฐานะ พบว่ามีการลงทุนขั้นต่ำประมาณ 200,000 บาท และจะมีการโชว์สลิปให้เห็นยอดเงินตอบแทนที่ได้คืนมาทุกวันที่ 20 ของเดือน จะได้ผลตอบแทนที่เกินจริง ทำให้ผู้ลงุทนหลงเชื่อซึ่งจะได้มาประมาณแค่ 1-2 เดือนแรก จากนั้นก็จะไม่มีเงินเข้ามาในบัญชีทำให้ผู้ลงทุนทวงถามถึงส่วนแบ่งผลตอบแทนที่จะได้รับทุกเดือน โดยทางแม่ข่ายจะแจ้งว่า ถ้าอยากได้ผลตอบแทนต้องไปหาผู้มาร่วมลงทุนอีกก็ทำให้มีผู้หลงเชื่อมาเป็นทอดๆ เนื่องจากอยากได้ผลตอบแทนที่ลงไปคืนมา

ด้านนายอิสรพงศ์ สาพงษ์เอี่ยม เจ้าหน้าที่คดีพิเศษดีเอสไอ กล่าวว่า ได้ติดตามขบวนการแชร์ลูกโซ่นี้มานานแล้วตั้งแต่ปี 2553 เดิมทีตึกเก่าตั้งอยู่ตึกเอทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก ก่อนจะย้ายขยายมามีสมาชิกเพิ่มขึ้นจนเป็นอาคารดังกล่าวในปัจจุบัน วิธีการของขบวนการนี้จะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้คนมาสมัครสมาชิกเพื่อร่วมขายตรง โดยแผนการตลาดมุ่งหาสมาชิก ไม่ได้มุ่งขายสินค้า เป็นลักษณะบังคับขายให้จำนวนมากเกินความจำเป็นสำหรับอุปโภคบริโภค พอได้ค่าสมาชิกก็อ้างว่าให้สมาชิกไปหาหัวมาต่อๆ กันไปเป็นลูกโซ่เพื่อให้ได้สมาชิกกลับมา ไม่ได้ให้ไปขายสินค้าต่อ คนส่วนใหญ่มาสมัครระดับ 38 เคานต์ ระดับวงเงินเกือบ 2 แสนบาท จะได้ค่าตอบแทนที่เห็นผลเกินจริงแล้วให้ไปชักชวนมาเป็นทอดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นทางภาคอีสานถึงขั้นขายที่ดินที่นาหมดตัวกันมาแล้ว และบางรายถึงขั้นผูกคอตายก็มี จึงจำเป็นต้องติดตามจับกุมเพื่อให้ขบวนการดังกล่าวหมดสิ้นไป ไม่เช่นนั้นจะมีผู้ถูกหลอกอีกเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตัวการใหญ่ 3 รายว่า ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 และมาตรา 5 มาตรา 12 และ 15 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83

ต่อมา ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 19.30 น.พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวจับกุม น.ส.หว่อง คิน ซี อายุ 36 ปี น.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี ทั้งสองสัญชาติจีน น.ส.มีนา สุขสงวน อายุ 32 ปี และ น.ส.วนิสา ศิลาอ่อน อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตาม พรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยจับกุม น.ส.หว่อง คิน ซี และ น.ส.เฉิน เป่า หยี ได้ที่บริเวณลานจอดรถ อาคารเดอะสตาร์ แอท พระราม 3 ถนนพระราม 3 เแขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. น.ส.มีนา ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 73/219 หมู่ 5 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.วนิสา จับกุมได้บริเวณกองปราบปราม ถนนพหลโยธิน

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางกองปราบปรามได้รับการประสานจาก ดีเอสไอ ให้ร่วมจับกุมผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่น้ำมันหอมระเหย ซึ่งทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ จากนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กองกำกับการ 1 และ กองกำกับการ 3 บก.ป. ร่วมกับจับกุมผู้ต้องหา จากการสอบสวนทราบว่าบริษัทดังกล่าว เรียกเก็บค่าสมาชิก 1 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท มีผู้เสียหายมากกว่า 2 หมื่นคน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้มีประมาณ 20 ราย มีหัวหน้าเป็นชาวจีน 3 คน จากการสอบสวนพบว่าเดือนที่แล้วมีเงินเข้าบัญชี 120 กว่าล้านบาท เฉพาะเดือนนี้มี 36 ล้านบาท

ด้านผู้ต้องหาทั้งหมดต่างให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้หลอกขาย เนื่องจากลูกค้าจะซื้อของก็ซื้อไปเลยไม่ต้องสมัครสมาชิกตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นางมีนา นั้นถือเป็นวิทยากรการพูดชักจูงใจอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งทางบริษัทดังจ่ายยอมจ่ายเงินให้เดือนละ 5 แสนบาท ให้มาสอนให้พนักงานของบริษัทเพื่อไปหลอกลวงสมาชิกต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น