กองบังคับการตำรวจจราจร ประเมินและวิเคราะห์ผลกระทบจากมรสุมแกมีเข้า กทม.ช่วงเช้าปริมาณการจราจรหนาแน่นเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ระวังเข้มในเรื่องของอุบัติเหตุและรถเสียซ้ำเติมปัญหาวิกฤต
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจจราจร พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.ดูงานด้านการจราจร ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝนตกทำให้น้ำท่วมขังผิวการจราจร ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบต่างๆ จากกรณีฝนตกโดยสั่งการให้ตำรวจจราจร บก.จร.และ จราจรทุก สน.ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาจราจรที่เกิดจากผลกระทบพายุแกมีที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องใน กทม.
พล.ต.ต.วรศักดิ์เปิดเผยว่า สภาพการจราจรช่วงเช้าชั่วโมงเร่งด่วนถือว่าเป็นไปตามสภาพยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เนื่องจากมีฝนตกมาตั้งแต่เช้ามืด และช่วงเวลา 07.00 น. ปริมาณรถหนาแน่นเต็มทุกพื้นที่ และมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนในเส้นหลักที่แยกพญาไท และรัชโยธิน แต่มีการแก้ไขไปอย่างรวดเร็ว สำหรับสภาพการจราจรที่ค่อนข้างจะมีปัญหาหนัก คือ กรุงเทพมหานครชั้นใน ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท้ายแถวพหลโยธิน และวิภาวดี ถนนรามคำแหงตลอดเส้นทาง และพื้นที่ชั้นนอก คือ เส้นถนนพระราม 2 ที่รับรถจากต่างจังหวัดมีปริมาณรถหนาแน่นทุกเช้าวันจันทร์ และมีอุบัติเหตุ 2-3 ราย จึงเป็นสาเหตุให้รถติดยาว
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า สถานการณ์ได้คลี่คลายลงช่วง 09.00 น. เพราะมีการเร่งระบายน้ำออกตลอดเวลา ขณะนี้ได้รับรายงานเพียงจุดเดียว ที่มีปริมาณน้ำขังถนนสุวินทวงศ์ 5-10 เซนติเมตร ซึ่งก็ได้ประสานแขวงการทางและเขตให้แก้ไขวางกระสอบทรายให้พร้อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อรองรับปัญหาในช่วงเย็น ส่วนพื้นที่อื่นก็มีการระบายเป็นไปได้อย่างดี แต่ประชาชนอาจจะรู้สึกว่ารถติดเนื่องจากฝนตก
“เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการเฝ้าระวังเข้มในเรื่องของอุบัติเหตุ และรถเสีย เพราะอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถติด สำหรับตำรวจผู้ปฏิบัติงานตอนนี้ทุกพื้นที่ก็ลงพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และทุกพื้นที่ทุก สน.มีแผนการจัดการจราจรแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ได้สั่งการในการอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนและในเรื่องของการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็จะมีการประเมินสถานการณ์สภาพการจราจรกันตลอดทั้งวัน เพราะเชื่อว่าจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและพี่น้องประชาชนก็จะทยอยออกจากบ้านในช่วงสาย” รอง ผบช.น.กล่าว
