บีทีเอสทุ่ม 600 ล้าน ติดตั้งรั้ว-ประตูอัตโนมัติเพิ่มความปลอดภัยผู้โดยสาร 9 สถานี นำร่อง สถานีสยามแห่งแรก แล้วเสร็จภายใน 10 เดือน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ได้มีหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร เพื่อขอติดตั้งรั้วและประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา ( Platform Screen Door) ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งมีการใช้บริการมากในแต่ละสถานี โดยจะดำเนินการติดตั้งประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา หรือ Half-Height Platform Screen Doors (HHPSD) ความสูง 1.50 ม.และติดตั้งที่ชานชาลาชั้นบน (Upper Platform) ยาวตลอดแนวชานชาลา จำนวน 4 ชุด เนื่องจากสถานีรถไฟฟ้าสยามมี 2 ชั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 10 เดือน สาเหตุที่ต้องใช้เวลานานติดตั้งนานเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งจึงจำเป็นต้องมีการทดลองระบบให้ดีก่อน จากนี้จะดำเนินการติดตั้งเพิ่มอีก 8 สถานี รวมทั้งหมด 20 ชุด ภายใน 1 ปี ได้แก่ สถานีรถไฟฟ้าอโศก สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช สถานีรถไฟฟ้าพญาไท สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง สถานีรถไฟฟ้าชิดลม สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ และสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีโดยคาดว่าใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 600 ล้านบาท
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า การที่กทม.ได้ตัดสินใจต่อหรือขยายอายุสัญญาสัมปทานระบบขนส่งมวลชน กทม.ระยะยาว จำนวน 30 ปี ทำให้บริษัทมีความกล้าที่จะลงทุนในระยะยาว และในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยโครงการติดตั้งรั้วและประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา เป็นโครงการที่เอื้อทั้งความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน จะมีการขยายเป็นโครงการระยะยาวให้ครบทุกสถานีต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ได้มีหนังสือถึงกรุงเทพมหานคร เพื่อขอติดตั้งรั้วและประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา ( Platform Screen Door) ที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งมีการใช้บริการมากในแต่ละสถานี โดยจะดำเนินการติดตั้งประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา หรือ Half-Height Platform Screen Doors (HHPSD) ความสูง 1.50 ม.และติดตั้งที่ชานชาลาชั้นบน (Upper Platform) ยาวตลอดแนวชานชาลา จำนวน 4 ชุด เนื่องจากสถานีรถไฟฟ้าสยามมี 2 ชั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 10 เดือน สาเหตุที่ต้องใช้เวลานานติดตั้งนานเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งจึงจำเป็นต้องมีการทดลองระบบให้ดีก่อน จากนี้จะดำเนินการติดตั้งเพิ่มอีก 8 สถานี รวมทั้งหมด 20 ชุด ภายใน 1 ปี ได้แก่ สถานีรถไฟฟ้าอโศก สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช สถานีรถไฟฟ้าพญาไท สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง สถานีรถไฟฟ้าชิดลม สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ และสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีโดยคาดว่าใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 600 ล้านบาท
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า การที่กทม.ได้ตัดสินใจต่อหรือขยายอายุสัญญาสัมปทานระบบขนส่งมวลชน กทม.ระยะยาว จำนวน 30 ปี ทำให้บริษัทมีความกล้าที่จะลงทุนในระยะยาว และในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยโครงการติดตั้งรั้วและประตูอัตโนมัติบริเวณขอบชานชาลา เป็นโครงการที่เอื้อทั้งความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน จะมีการขยายเป็นโครงการระยะยาวให้ครบทุกสถานีต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน
