xs
xsm
sm
md
lg

จับหนุ่มตุ๋นขายพระทองคำปลอม 8 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายคำพันธ์ หรือพัน แสนศรี อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาฉ้อโกง
บก.น.8 บุกจับตัวหนุ่มใหญ่ป้ายยา ลวงขายพระพุทธรูปทองคำปลอมในราคา 8 แสนบาท สืบสวนเบื้องต้น พบสึกจากการบวชเป็นพระเมื่ออายุ 20 ปี จากนั้นได้ตระเวนก่อเหตุเป็นเวลา 26 ปี และถูกจับได้เพียง 2 ครั้ง

วันนี้ (25 ก.ย.) พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดชผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายคำพันธ์ หรือพัน แสนศรี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 3 ต.กุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 430/2555 ลงวันที่ 22 ก.ย.2555 ข้อหาฉ้อโกง พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 15,400 บาท พระพุทธรูปทองเหลืองขนาดหน้าตัก 4 นิ้ว สามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 16 ซอยสุขสวัสดิ์ 37/7 ถนนสุขสวัสดิ์ ต.บางผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ต.ประหยัชว์ เปิดเผยว่า การจับในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเศษเงิน และเศษทองย่านวงเวียนใหญ่ เข้ามาแจ้งความที่ สน.บางยี่เรือ มีคนร้ายใช้ของเหลวป้ายที่บริเวณต้นแขน จากนนั้นผู้เสียหายเกิดความมึนงงทางคนร้ายจึงนำพระพุทธรูปมาหลอกขายเป็นเงินจำนวน 800,000 บาท และได้หลบหนีไป ต่อมา ชุดสืบสวนสืบทราบว่าผู้ต้องหานั้นได้เช่าบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายคำพันธ์ ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ตนเป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริง เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง โดยวันที่เกิดเหตุตนได้เอาเศษทองมาขายที่ร้านของผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 19,000 บาท จากนั้นได้นำพระพุทธรูปดังกล่าวที่พกอยู่ในย่ามมาขายซึ่งเป็นทองเหลือ งและมีทองคำแท้ปนอยู่เพียงเล็กน้อย และเพื่อเป็นการตบตาเหยื่อ ก่อนหน้านี้ ตนได้นำพระพุทธรูปดังกล่าวไปผ่านวิธีการอบทราย ซึ่งจะทำให้ดูด้วยตาเปล่าเหมือนทองคำแท้เป็นอย่างมาก เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบดูแล้วเป็นที่พอใจตนจึงบอกขายในราคา 870,000 บาท ทางผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโทร.ไปยืมเงินญาติ และเดินไปกดเงินที่ตู้ ATM ซึ่งในตอนนั้นตนได้เงินมา 800,000 บาท ซึ่งยังเหลืออีก 70,000 บาท ทางผู้เสียหายบอกตนว่าให้ไปเอาที่เหลือที่ร้าน แต่ตนกลัวเหยื่อรู้ตัวจึงได้หลบหนีไปพร้อมกับเงินดังกล่าว

นายคำพันธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อได้เงินมาตนได้นำเงินจำนวนดังกล่าวใส่ไว้ในถุงหิ้วของเซเว่น-อีเลฟเว่น จำนวนหนึ่ง เพื่อตบตาสำหรับผู้พบเห็น และใส่กระเป๋ากางเกงอีกจำนวน 15,400 บาท จากนั้น ตนจึงเดินทางมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อที่จะเดินทางไปยังจังหวัดเพชรบุรี เมื่อมาถึงบริเวณวงเวียน 22 ตนจึงไปซื้อเบียร์มาดื่มพร้อมกับกินยาลดความดัน จากนั้นตนจึงหลับไป และตื่นมาอีกทีก็พบว่าถุงที่ตนใส่เงินไว้นั้นได้หายไปแล้ว ตนจึงเปลี่ยนแผนที่จะไปต่างจังหวัด และกลับบ้านที่ อ.พระประแดง จนมาถูกจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว ส่วนเงินที่ได้มานั้นนำไปใช้จ่ายส่วนตัว

“เรื่องของเหลวที่ทางผู้เสียหายบอกว่าตนเอาของเหลวป้าย และเกิดความมึนงงนั้น ตนบอกเลยว่าในโลกนี้ไม่มีของเหลวอย่างที่ผู้เสียหายกล่าวหรอก ที่ผู้เสียหายยอมจ่ายเงินซื้อพระนั้นเป็นความพึงพอใจของผู้เสียหายเอง ตนไม่ได้บังคับ และตนไม่ได้ทำยาอะไรมาทั้งสิ้น ถ้าเรียกคงต้องเรียกว่ายาโลภของผู้เสียหายเอง” นายคำพันธ์ กล่าว

พ.ต.อ.นพรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังสืบทราบผู้ต้องหาได้สึกจากการบวชเป็นพระเมื่ออายุ 20 ปี จากนั้นได้ตระเวนก่อเหตุเป็นเวลา 26 ปี และถูกจับได้เพียง 2 ครั้ง เชื่อว่าผู้ต้องหานั้นน่าจะลงมือเพียงคนเดียวไม่ได้มีแก๊งแต่อย่างใด แต่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา จากนี้จะทำการสืบสวนอีกครั้งว่าจำนวนเงินที่เหลือแล้วอ้างว่าหายไปจริงหรือไม่ พร้อมกันนี้ ผู้ต้องหายังได้ใช้ชื่อปลอมในการรักษาตัวที่ รพ. และเช่าบ้านอีกด้วย หลังจากนี้จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น