ราชบุรี - ตำรวจราชบุรีตามรวบฆาตกรโหดฆ่าเปลือยแม่หม้ายเนื้อหอม ได้แล้ว
จากคดีที่มีผู้ไปพบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อในสภาพร่างกายเปลือย ที่บริเวณกลางทุ่งนา หมู่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ที่ 16 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และพบหลักฐานเสื้อชั้นใน กางเกงในและโทรศัพท์ถูกเผาแต่ไหม้ไม่หมด รวมทั้งรองเท้าฟองน้ำ 1 ข้างตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 12 ก.ย.55 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าคนร้ายน่าจะลวงผู้ตายมาข่มขืน แต่ผู้ตายนั้นไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ขัดขืน และถูกทุบด้วยของแข็งที่ศรีษะจนทำให้เสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะทำการเผาชุดชั้นในและโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และทำการโยนเหรียญบาทจำนวน 3 เหรียญ เพื่อสะกดวิณญาณของผู้ตายไว้ก่อนจะหลบหนีไป และทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นางสาว อนันยา กินสุกร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/4 หมู่ 5 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแม่หม้ายลูกติดสองคน
ความคืบหน้าวันนี้ (14 ก.ย.55) พ.ต.อ.ชัชพงศ์ สุขบุญชูเทพ ผกก.สภ.ด่านทับตะโก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางชะลอ พุกมาก อายุ 49 ปี แม่ของนายอนุชา สาหร่าย อายุ 23 ปี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายอนุชา นั้นเป็นคนฆ่า น.ส.อนันทยา จินสุกร แม่หม้ายสาวแล้วทิ้งศพที่กลางทุ่งนา และนายอนุชา ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมมอบตัว พร้อมกับหลบหนีไปในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ชัชพงศ์ สุขบุญชูเทพ ผกก.สภ.ด่านทับตะโก เผยว่า คดีนี้จากการติดตามสืบสวนผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่มีส่วนพัวพันกับผู้ตาย ซึ่งก็มีนายอนุชาฯ เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยด้วยพบว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปติดต่อเพื่อสอบปากคำ นายอนุชา ที่ทราบว่า บวชเป็นพระอยู่ที่วัดจระเข้เผือก จ.กาญจนบุรี แต่พบว่านายอนุชา ได้สึกออกไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ย.หลังก่อเหตุ โดยมีผู้พบเห็นนายอนุชา ขับรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาว-แดง ซึ่งเป็นของผู้ตายมาวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านและนายอนุชา ยังไปยอมรับกับนางชะลอ ผู้เป็นแม่ ว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.อนันทยา จินสุกร โดยทางญาติก็เกลี้ยกล่อมขอให้มอบตัว แต่นายอนุชากลับหลบหนีไป
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวนายอนุชา สาหร่าย ไว้ได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านวังใหญ่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นำตัวมาสอบสวน นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารแม่หม้ายสาว ในวันเกิดเหตุ (12 ก.ย.) น.ส.อนันยา ได้ขับขี่รถ จยย.ไปหาตน ซึ่งกำลังเป็นพระภายในวัดจรเข้เผือก แล้วรับออกมาพูดตรงลงกันบริเวณที่เกิดเหตุ เรื่องของความหึงห่วงกันและกัน ระหว่างที่พูดจาอยู่นั้น น.ส.อนันยา ได้ใช้มือตบที่ใบหน้าตนอย่างรุนแรง ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้เข็มขัดรัดคอ น.ส.อนันยา จากนั้นก็ใช้หินทุบที่ศีรษะ แล้วถอดเสื้อผ้า เสื้อชั้นใน กางเกงใน พร้อมโทรศัพท์ของผู้ตาย จุดไฟเผา จากนั้นได้ขับขี่รถ จยย.ของผู้ตายไปหาซื้อผ้ามาสวมใส่สลัดจากการเป็นพระภิษุออก แล้วไปเล่าให้เหตุการณ์ให้กับนางชะลอ พุกมาก ผู้เป็นแม่ฟัง จากนั้นหลบหนีไปอยู่ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จนกระทั่งถูกจับกุมตัว หลังจากรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผน พร้อมควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
จากคดีที่มีผู้ไปพบศพหญิงสาวไม่ทราบชื่อในสภาพร่างกายเปลือย ที่บริเวณกลางทุ่งนา หมู่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ที่ 16 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และพบหลักฐานเสื้อชั้นใน กางเกงในและโทรศัพท์ถูกเผาแต่ไหม้ไม่หมด รวมทั้งรองเท้าฟองน้ำ 1 ข้างตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 12 ก.ย.55 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าคนร้ายน่าจะลวงผู้ตายมาข่มขืน แต่ผู้ตายนั้นไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้ขัดขืน และถูกทุบด้วยของแข็งที่ศรีษะจนทำให้เสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะทำการเผาชุดชั้นในและโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และทำการโยนเหรียญบาทจำนวน 3 เหรียญ เพื่อสะกดวิณญาณของผู้ตายไว้ก่อนจะหลบหนีไป และทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นางสาว อนันยา กินสุกร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/4 หมู่ 5 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแม่หม้ายลูกติดสองคน
ความคืบหน้าวันนี้ (14 ก.ย.55) พ.ต.อ.ชัชพงศ์ สุขบุญชูเทพ ผกก.สภ.ด่านทับตะโก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางชะลอ พุกมาก อายุ 49 ปี แม่ของนายอนุชา สาหร่าย อายุ 23 ปี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายอนุชา นั้นเป็นคนฆ่า น.ส.อนันทยา จินสุกร แม่หม้ายสาวแล้วทิ้งศพที่กลางทุ่งนา และนายอนุชา ได้ติดต่อขอมอบตัวแล้ว แต่เกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมมอบตัว พร้อมกับหลบหนีไปในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ชัชพงศ์ สุขบุญชูเทพ ผกก.สภ.ด่านทับตะโก เผยว่า คดีนี้จากการติดตามสืบสวนผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่มีส่วนพัวพันกับผู้ตาย ซึ่งก็มีนายอนุชาฯ เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยด้วยพบว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปติดต่อเพื่อสอบปากคำ นายอนุชา ที่ทราบว่า บวชเป็นพระอยู่ที่วัดจระเข้เผือก จ.กาญจนบุรี แต่พบว่านายอนุชา ได้สึกออกไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ย.หลังก่อเหตุ โดยมีผู้พบเห็นนายอนุชา ขับรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาว-แดง ซึ่งเป็นของผู้ตายมาวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านและนายอนุชา ยังไปยอมรับกับนางชะลอ ผู้เป็นแม่ ว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.อนันทยา จินสุกร โดยทางญาติก็เกลี้ยกล่อมขอให้มอบตัว แต่นายอนุชากลับหลบหนีไป
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวนายอนุชา สาหร่าย ไว้ได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านวังใหญ่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นำตัวมาสอบสวน นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารแม่หม้ายสาว ในวันเกิดเหตุ (12 ก.ย.) น.ส.อนันยา ได้ขับขี่รถ จยย.ไปหาตน ซึ่งกำลังเป็นพระภายในวัดจรเข้เผือก แล้วรับออกมาพูดตรงลงกันบริเวณที่เกิดเหตุ เรื่องของความหึงห่วงกันและกัน ระหว่างที่พูดจาอยู่นั้น น.ส.อนันยา ได้ใช้มือตบที่ใบหน้าตนอย่างรุนแรง ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้เข็มขัดรัดคอ น.ส.อนันยา จากนั้นก็ใช้หินทุบที่ศีรษะ แล้วถอดเสื้อผ้า เสื้อชั้นใน กางเกงใน พร้อมโทรศัพท์ของผู้ตาย จุดไฟเผา จากนั้นได้ขับขี่รถ จยย.ของผู้ตายไปหาซื้อผ้ามาสวมใส่สลัดจากการเป็นพระภิษุออก แล้วไปเล่าให้เหตุการณ์ให้กับนางชะลอ พุกมาก ผู้เป็นแม่ฟัง จากนั้นหลบหนีไปอยู่ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จนกระทั่งถูกจับกุมตัว หลังจากรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผน พร้อมควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป