รวบโหรเฒ่า! เปิดสำนักโลกีย์ข่มขืน นร.-ตั้งตนเป็นพ่อเล้า

ตำรวจ ปคม.รวบตัวโหรเฒ่าวัย 57 ปี เปิดสำนักณัชชวีโหราศาตร์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 หลอกลวงเด็กนักเรียนสาว ม.ต้น ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้พ้นทุกภัยก่อนลงมือข่มขืน พร้อมตั้งต้นเป็นสำนักโลกีย์ จัดหาให้มีการค้าประเวณี ค้นพบถุงยางอนามัย อวัยวะเพศชายปลอม และยาปลุกเซ็กซ์หลายรายการ ผู้ต้องหารับสารภาพเคยบวชเป็นพระมา 10 พรรษา แต่เกิดคลั่งไคล้ในวิชาไสยศาสตร์ จึงมาเปิดสำนักเพื่อรับดูดวงดูฤกษ์

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.อัศวิน หวังสู้ศึก รองผกก.1ปคม.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.นำหมายศาลอาญารัชดาเลขที่ 953/2555 ลงวันที่ 27 มิ.ย.เข้าทำการจับกุม นายทรงวุฒิ เจริญชัย อายุ 57 ปี เจ้าสำนักโหราศาสตร์ชื่ออาจารย์ณัชชวี เลขที่ 65/7 ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี เป็นธุรกิจจัดหาให้มีการค้าประเวณี โดยขณะที่เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่พบเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ย่านบางแค จำนวน 4 คน นั่งรอทำการเปลี่ยนชื่อ

โดยตึกดังกล่าวสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นตำหนักดูโหราศาสตร์ ดูดวง ดูฤกษ์ ชั้น 2 เปิดเป็นห้องทำพิธีกรรมลงนะหน้าทอง ส่วนชั้น 3 เป็นห้องเปล่า ซึ่งจากการตรวจค้นภายในชั้น 2 พบถุงยางอนามัยจำนวนมาก อวัยวะเพศชายปลอมจำนวน 1 อัน กาแฟปลุกเซ็กซ์หลายซอง ยาไวอะกร้า เสื้อผ้าและกางเกงในผู้หญิงจำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ.ชิตภพเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) มีนักเรียนหญิงโรงเรียนชื่อดังย่านศาลายา จำนวน 4 คน เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ว่า ได้ถูกผู้ต้องหากระทำชำเรา และบังคับให้ค้าประเวณี โดยทั้งหมดถูกหลอกจากเพื่อนผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนให้ไปหาผู้ต้องหา โดยอ้างว่า ทุกคนกำลังมีเคราะห์ หากทำการเปลี่ยนชื่อแล้วจะดีขึ้น ทุกคนก็หลงเชื่อ โดยผู้ต้องหาจะให้เด็กนักเรียนหญิงแต่ละคนสลับกันขึ้นทำพิธีที่บริเวณชั้น 2 ทีละคน ซึ่งผู้ต้องหาจะหลอกให้นักเรียนหญิงถอดเสื้อผ้าออกหมด แล้วให้นอนลงก่อนจะนำผ้าขาวมาคลุมตัวไว้ ก่อนที่จะร่ายมนต์คาถาต่างๆ จากนั้นก็จะใช้มือลูบคลำที่อวัยวะเพศ ก่อนจะลงมือข่มขืน โดยจะทำกับเด็กทุกคน และจะบอกกับทุกคนว่า พิธีกรรมสำเร็จแล้ว ต่อไปนี้จะโชคดีชีวิตเจริญก้าวหน้า มีเงินมีทองเข้ามาตลอด

พ.ต.อ.ชิตภพกล่าวอีกว่า หลังจากเด็กนักเรียนทุกคนกลับบ้านไปแล้ว ผู้ต้องหายังโทร.ติดต่อกับทุกคน ถ้าใครอยากได้เงินใช้ให้มาหาอาจารย์ แต่หากใครไม่มาหาจะเสกคุณไสยเข้าท้อง ซึ่งเด็กทุกคนก็กลัว จึงเดินทางมาอีก ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลอกให้ค้าประเวณีกับผู้ชายต่างๆ โดยคนที่ได้ค่าตัวสูงสุดอยู่ที่ 4,000 บาท ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งมีกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่เคยถูกหลอกได้มาบอกก็จะรู้ตัวว่า โดนผู้ต้องหาหลอกข่มขืนและค้าประเวณี ทั้งหมดจึงเดินทางมาแจ้งเจ้าหน้าที่ ปคม.ให้ทำการจับกุม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ตนเป็นชาวอุดรฯ เมื่อ 20 ปีที่แล้วได้ทำการบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดที่จังหวัดอุดรธานี ได้ประมาณ 10 พรรษา เกิดศรัทธาและคลั่งไคล้ในวิชาไสยศาสตร์ จึงเดินทางมาหาห้องเช่าที่กรุงเทพฯ ก่อนจะมาเปิดตำหนักที่ตึกดังกล่าว พร้อมกับตั้งตนเป็นอาจารย์รับดูดวง ดูฤกษ์ เปลี่ยนชื่อ นามสกุล และดูโหราศาสตร์ ส่วนถุงยางที่พบนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ซื้อเก็บไว้ใช้เอง เวลาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง และจะใช้ยาไวอะกร้าด้วยทุกครั้ง เพราะตนอายุเยอะแล้ว ส่วนเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นของคนอื่นที่เข้ามาเรียนเรื่องการนวดถอดทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจคำให้การ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่ บก.ปคม.เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป