แพร่ - ส.ว.เมืองสามหมอก ทำปืนลั่นใส่ผู้ติดตามชาวเมืองแพร่กลางโต๊ะอาหาร เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่มีเอกสิทธิ์สมัยประชุมคุ้มครอง ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ด้าน "ผบก.แพร่" เผยเตรียมทำหนังสือขอตัวสภาสอบ ยืนยันไม่มีปมชู้สาวเกี่ยวข้องแน่
วานนี้ (13 ส.ค.) นายบุญส่ง โควาวิสารัช อายุ 56 ปี สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เข้ารับศพนางชนากาญจน์ เด็ดขาด อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/94 หมู่ 10 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลแพร่ หลังแพทย์ได้ทำการตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต เพราะนายบุญส่ง ทำปืนพกขนาด 9 มม. รูซี่ออโตเมติก ลั่น กระสุนเข้าที่บริเวณท้องของนางชนากาญจน์ จนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะทั้ง 2 ไปรับประทานอาหารที่บ้านญาติของนางชนากาญจน์ ที่เปิดบริการบ้านพักรีสอร์ทชื่อ “ปิยะนาถ”โดยนางชนากาญจน์ เป็นผู้ไปรับนายบุญส่ง มาจากสนามบินเพื่อมาร่วมรับประทานอาหาร ร่วมกับญาตินางชนากาญจน์รวม 5 คน
ก่อนรับประทานอาหารนายบุญส่ง ได้นำปืนพกส่วนตัวมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งมีผู้ร่วมวงรับประทานอาหารพยายามบอกให้นายบุญส่ง เก็บปืน ซึ่งนายบุญส่ง ทำตาม แต่ขณะกำลังเก็บ ปืนเกิดลั่นกระสุนเข้าที่ระหว่างอกหรือราวนมนางชนากาญจน์ จนต้องพากันนำส่งโรงพยาบาลวังชิ้น แพทย์พบว่า อาการของนางชนากาญจน์ หนักมากจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแพร่ แต่ไปไม่ถึงระหว่างทางได้แวะที่โรงพยาบาล อ.ลอง แต่นางชนากาญจน์ ได้เสียชีวิตลง จึงได้นำศพนางชนากาญจน์ ไปที่โรงพยาบาลแพร่ เพื่อตรวจพิสูจน์
กระทั่งรุ่งเช้า แพทย์ได้ทำการตรวจพิสูจน์พบว่า กระสุนเข้าในช่องท้อง ถูกหัวใจเล็กน้อย เลือดออกมากจนเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต หลังจากนั้นนายบุญส่ง ส.ว.แม่ฮ่องสอน และคณะได้นำศพของนางชนากาญจน์ ไปยังบ้านที่บ้านใหม่ ในเขตเทศบาลตำบลวังชิ้น ซึ่งเป็นบ้านเดิมของนางชนากาญจน์ และจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่กลาง ในเขตเทศบาลตำบลวังชิ้นต่อไป
ทั้งนี้ ในระหว่างที่นำนางชนากาญจน์ เดินทางมาถึงโรงพยาบาลแพร่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปล่งขำ ผบก.ภ.จว.แพร่ ได้เดินทางไปทำการสอบสวนด้วยตนเอง เนื่องจากผู้ที่ทำปืนลั่นมีตำแหน่ง ส.ว.แม่ฮ่องสอน โดยมีนายขวัญชัย พนมขวัญ ส.ว.แพร่ ไปร่วมให้กำลังใจและร่วมติดตามการดำเนินคดีด้วย
พ.ต.ท.ชูศักดิ์ พูนสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่เร่งดำเนินคดีหลังเกิดเหตุในทันที กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในห้องรับประทานอาหารของญาตินางชนากาญจน์ ที่รีสอร์ทปิยะนาถ มีผู้อยู่ในเหตุการณ์นอกเหนือจากคู่กรณี 3 คน กำลังดำเนินการสอบปากคำโดยเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม นายบุญส่ง ที่ทำปืนลั่นนั้นทราบในเบื้องต้นว่ามีอาการพิการคล้ายอัมพฤกษ์ที่มือและเท้า ทำให้เกิดความผิดพลาดในการใช้อาวุธปืน ซึ่งได้ตั้งข้อหา ใช้อาวุธปืนโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คงต้องรอให้นายบุญส่ง มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปล่งขำ ผบก.ภ.จว.แพร่ เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วแต่ไม่สามารถควบคุมตัวนายบุญส่งไว้ได้เนื่องจาก ส.ว. มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เพราะอยู่ในสมัยเปิดประชุมสภาฯ และต้องรอผลตรวจเขม่าปืน ซึ่งนายบุญส่ง ถือมีความผิดตามข้อหาทำการประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
"จากการสอบปากคำเบื้องต้น คาดว่าเป็นเหตุปืนลั่นจริงและไม่เกี่ยวข้องหรือมีเหตุจากเรื่องชู้สาวอย่างแน่นอน ซึ่งผู้กระทำผิดมีตำแหน่งที่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง จึงไม่สามารถควบคุมตัวเพื่อสอบสวนได้ แต่ก็ได้ตั้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไว้แล้ว และเร็วๆ นี้จะทำหนังสือขอตัวจากสภา เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสภาว่าจะส่งมาให้หรือไม่" พล.ต.ต.วิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชนากาญจน์ เป็นชาวบ้านนาใหม่ ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งได้ไปทำงานกับนายบุญส่ง ในตำแหน่งเลขานุการ และต่อมาทั้ง 2 ได้อยู่กินร่วมกันจนมีลูกด้วยกัน 2 คน การเดินทางมาที่ จ.แพร่ ครั้งนี้เป็นการเดินทางมาตามคำชักชวนของนางชนากาญจน์ และพาไปรับประทานอาหารที่รีสอร์ท ของญาติจนเกิดเหตุปืนลั่นดังกล่าว.
วานนี้ (13 ส.ค.) นายบุญส่ง โควาวิสารัช อายุ 56 ปี สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เข้ารับศพนางชนากาญจน์ เด็ดขาด อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/94 หมู่ 10 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลแพร่ หลังแพทย์ได้ทำการตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต เพราะนายบุญส่ง ทำปืนพกขนาด 9 มม. รูซี่ออโตเมติก ลั่น กระสุนเข้าที่บริเวณท้องของนางชนากาญจน์ จนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะทั้ง 2 ไปรับประทานอาหารที่บ้านญาติของนางชนากาญจน์ ที่เปิดบริการบ้านพักรีสอร์ทชื่อ “ปิยะนาถ”โดยนางชนากาญจน์ เป็นผู้ไปรับนายบุญส่ง มาจากสนามบินเพื่อมาร่วมรับประทานอาหาร ร่วมกับญาตินางชนากาญจน์รวม 5 คน
ก่อนรับประทานอาหารนายบุญส่ง ได้นำปืนพกส่วนตัวมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งมีผู้ร่วมวงรับประทานอาหารพยายามบอกให้นายบุญส่ง เก็บปืน ซึ่งนายบุญส่ง ทำตาม แต่ขณะกำลังเก็บ ปืนเกิดลั่นกระสุนเข้าที่ระหว่างอกหรือราวนมนางชนากาญจน์ จนต้องพากันนำส่งโรงพยาบาลวังชิ้น แพทย์พบว่า อาการของนางชนากาญจน์ หนักมากจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแพร่ แต่ไปไม่ถึงระหว่างทางได้แวะที่โรงพยาบาล อ.ลอง แต่นางชนากาญจน์ ได้เสียชีวิตลง จึงได้นำศพนางชนากาญจน์ ไปที่โรงพยาบาลแพร่ เพื่อตรวจพิสูจน์
กระทั่งรุ่งเช้า แพทย์ได้ทำการตรวจพิสูจน์พบว่า กระสุนเข้าในช่องท้อง ถูกหัวใจเล็กน้อย เลือดออกมากจนเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต หลังจากนั้นนายบุญส่ง ส.ว.แม่ฮ่องสอน และคณะได้นำศพของนางชนากาญจน์ ไปยังบ้านที่บ้านใหม่ ในเขตเทศบาลตำบลวังชิ้น ซึ่งเป็นบ้านเดิมของนางชนากาญจน์ และจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่กลาง ในเขตเทศบาลตำบลวังชิ้นต่อไป
ทั้งนี้ ในระหว่างที่นำนางชนากาญจน์ เดินทางมาถึงโรงพยาบาลแพร่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปล่งขำ ผบก.ภ.จว.แพร่ ได้เดินทางไปทำการสอบสวนด้วยตนเอง เนื่องจากผู้ที่ทำปืนลั่นมีตำแหน่ง ส.ว.แม่ฮ่องสอน โดยมีนายขวัญชัย พนมขวัญ ส.ว.แพร่ ไปร่วมให้กำลังใจและร่วมติดตามการดำเนินคดีด้วย
พ.ต.ท.ชูศักดิ์ พูนสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่เร่งดำเนินคดีหลังเกิดเหตุในทันที กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในห้องรับประทานอาหารของญาตินางชนากาญจน์ ที่รีสอร์ทปิยะนาถ มีผู้อยู่ในเหตุการณ์นอกเหนือจากคู่กรณี 3 คน กำลังดำเนินการสอบปากคำโดยเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม นายบุญส่ง ที่ทำปืนลั่นนั้นทราบในเบื้องต้นว่ามีอาการพิการคล้ายอัมพฤกษ์ที่มือและเท้า ทำให้เกิดความผิดพลาดในการใช้อาวุธปืน ซึ่งได้ตั้งข้อหา ใช้อาวุธปืนโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คงต้องรอให้นายบุญส่ง มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปล่งขำ ผบก.ภ.จว.แพร่ เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วแต่ไม่สามารถควบคุมตัวนายบุญส่งไว้ได้เนื่องจาก ส.ว. มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เพราะอยู่ในสมัยเปิดประชุมสภาฯ และต้องรอผลตรวจเขม่าปืน ซึ่งนายบุญส่ง ถือมีความผิดตามข้อหาทำการประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
"จากการสอบปากคำเบื้องต้น คาดว่าเป็นเหตุปืนลั่นจริงและไม่เกี่ยวข้องหรือมีเหตุจากเรื่องชู้สาวอย่างแน่นอน ซึ่งผู้กระทำผิดมีตำแหน่งที่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง จึงไม่สามารถควบคุมตัวเพื่อสอบสวนได้ แต่ก็ได้ตั้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไว้แล้ว และเร็วๆ นี้จะทำหนังสือขอตัวจากสภา เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสภาว่าจะส่งมาให้หรือไม่" พล.ต.ต.วิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชนากาญจน์ เป็นชาวบ้านนาใหม่ ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งได้ไปทำงานกับนายบุญส่ง ในตำแหน่งเลขานุการ และต่อมาทั้ง 2 ได้อยู่กินร่วมกันจนมีลูกด้วยกัน 2 คน การเดินทางมาที่ จ.แพร่ ครั้งนี้เป็นการเดินทางมาตามคำชักชวนของนางชนากาญจน์ และพาไปรับประทานอาหารที่รีสอร์ท ของญาติจนเกิดเหตุปืนลั่นดังกล่าว.