บีทีเอสล้มแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ใหม่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง 3 แปลง คือ พญาไท นานา และหมอชิต หลังประเมินตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวลง ยอมรับยักษ์ใหญ่บริษัทอสังหาฯ หลายรายเจรจาขอซื้อที่ดิน แย้มสนใจขายถ้าได้ราคาดีและขอร่วมถือหุ้นในโครงการฯ ด้วย คาดได้ข้อสรุปในปี 2556 ฟุ้งปีนี้ทะลุเป้าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าโต 15% คาดทั้งปีแตะ 200 ล้านเที่ยวคน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส และเป็นบริษัทในเครือ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายเพื่อขายที่ดินบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยจะขอเข้าร่วมถือหุ้นในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย คาดว่าจะชัดเจนในปี 2556
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีที่ดินอยู่ 3 แปลงบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้า คือที่ดินบริเวณพญาไทกว่า 3ไร่, นานาอีก 3 ไร่ และหมอชิตอีก 15 ไร่ ซึ่งเดิมบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาที่ดินแถวพญาไทเป็นโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรม, นานาจะพัฒนาเป็นโรงแรม และที่ดินแถวหมอชิตพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โรงแรม และอาคารสำนักงานให้เช่า แต่เห็นว่าปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มชะลอตัวลงจึงไม่อยากลงทุน และเห็นว่าการขายที่ดินออกไปน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสม เนื่องจากธุรกิจหลักคือ ขนส่งมวลชน โดยที่ดินดังกล่าวนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อมาในช่วงที่ BTSC อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ไม่ต้องชำระหนี้จึงมีกระแสเงินสดในมือมาก ดังนั้นหากขายที่ดินออกไปก็มีกำไรอยู่แล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ BTSC ได้ขายหุ้นบริษัท กมลา บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งมีที่ดิน 455 ไร่บริเวณหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต เป็นเงิน 1.64 พันล้านบาท โดยบริษัทรับรู้กำไรประมาณ 400 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในต่างจังหวัด รวมทั้งที่ดินในธนาซิตี้ด้วย
นายสุรพงษ์กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารในปีนี้เติบโต 12-15% จากปีก่อนที่มีอัตราเฉลี่ยในวันทำการ 541,701 เที่ยวคน/วัน โดยในงวดไตรมาส 2/2555 ของบริษัทฯ (1 ก.ค.-30 ก.ย. 55) มีจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% เล็กน้อย และทั้งปีมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 200 ล้านเที่ยวคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 176 ล้านเที่ยวคน ทำให้งวดปี 2555/2556 สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. 56 มีกำไรเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนแน่นอน เนื่องจากมี EBITDA MARGIN กว่า 60% และยังรับรู้รายได้พิเศษจากการขายหุ้นบริษัท กมลา ฯ และได้รับเงินชดเชยจากกรมธนารักษ์ 1.1 พันล้านบาทในเดือน ต.ค.นี้ และกำไรจากการขายหุ้น บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI)
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายอีก 3 ปีข้างหน้าจะรักษาอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าขึ้นปีละกว่า 10% โดยปีนี้บริษัทฯ จะทยอยรับตู้รถไฟฟ้า 35 ตู้เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ทำให้ปี 2556 บริษัทฯ มีรถไฟฟ้ารวม 47 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ และปลายปี 2556 จะรับตู้รถไฟเพิ่มอีก 5 ขบวน ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท เพื่อรองรับส่วนต่อขยายวงเวียนใหญ่-บางหว้า ที่จะเปิดเดินรถ 2 สถานีแรกในเดือน ธ.ค.นี้ และที่เหลืออีก 2 สถานีในเดือน ส.ค. 2556 หลังจากนั้นอีก 5-6 ปีบริษัทฯ ซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 7 ขบวน คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 3 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา น่าจะสั่งซื้อรถไฟฟ้าดังกล่าวได้ในอีก 2ปีข้างหน้า
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีรายได้ 728 ล้านบาท โดยโครงการ Abstracts พหลโยธินขายได้ 70% และจะเริ่มโอนหลังจากสร้างเสร็จในเดือน ธ.ค. 55 ส่วนโครงการ Abstracts สุขุมวิทขายหมดแล้ว และอยู่ระหว่างโอน