รวบพ่อเลี้ยงหื่นกระทำอนาจารลูกเลี้่ยงสาววัย 14 ปี ทั้งลูบคลำหน้าอกและอวัยวะเพศก่อนหนีไปบวชพระที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ยังไม่วายส่งรูปภาพอวัยวะเพศของเด็กพร้อมข้อความหยาบคายทางโทรศัพท์มือถือ ร้องมูลนิธิปวีณาฯ ประสาน สน.บางเขนตามตะครุบตัวได้ทั้งที่อยู่ในคราบผ้าเหลือง
วันนี้ (18 ก.ย.) พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหากระทำอนาจารเด็ก คือ นายปรีชา หรือชา ชัยนาท อายุ 45 ปี ที่อยู่ 37/6 ซอยวัชรพล 4 (ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 75) แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี 770/2555 ลงวันที่ 17 กันยายน 2555 ตามคดีอาญาที่ 2782/2555 ของ สน.บางเขน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง การ์ดบันทึกข้อมูลขนาด 2 กิ๊ก 1 อัน (ข้อมูลภาพลามก) ซิมการ์ด 1 อัน (ซิมการ์ดที่ผู้ต้องหาใช้ส่งข้อความและรูปภาพ) และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงรุ่นแชมป์ สีชมพูของผู้เสียหาย 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่วัดสุ่งเจริญ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
พ.ต.อ.ชยุตเปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรณี น.ส.รุ่งรัตน์ สุขหอม ได้พา ด.ญ.แอน (นามสมมติ) บุตรสาว อายุ 14 ปี เข้าขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิฯ โดยแจ้งว่านายปรีชา ผู้ต้องหาได้กระทำอนาจาร ด.ญ.แอน ด้วยการใช้มือลูบคลำหน้าอกและจับต้องอวัยวะเพศของ ด.ญ.แอน โดยที่ ด.ญ.แอนไม่ยินยอม ต่อมาผู้ต้องหาได้หนีไปบวชเป็นพระภิกษุที่วัดดังกล่าว จ.ฉะเชิงเทรา และได้ส่งรูปภาพอวัยวะเพศของตนเองพร้อมข้อความหยาบคายทางโทรศัพท์มือถือ โดยใช้ซิมการ์ดของกลางซึ่งเป็นของพระวุฒิพันธ์ พุฒิสาร ที่บวชพระอยู่วัดเดียวกันให้กับ ด.ญ.แอนดูทางโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.แอน ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้และทำการสอบสวนตามคดีอาญาดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง
นางปวีณากล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.รุ่งรัตน์ได้พา ด.ญ.แอนลูกสาวเข้าร้องทุกข์กับตนว่า ด.ญ.แอนถูกนายปรีชาซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงที่อยู่กินด้วยกันมากว่า 2 ปี ภายในซอยวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กระทำอนาจารด้วยการใช้มือลูบคลำหน้าอก และจับอวัยวะเพศบ่อยครั้งโดยลูกสาวไม่ยินยอม และทำมาตั้งแต่เดือนก.ค. 54 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือน ก.พ. 55 แต่ลูกสาวเพิ่งมาบอกเพราะกลัวถูกทำร้าย ต่อมานายปรีชาหนีไปบวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังบวชเป็นพระก็ยังส่งข้อความอนาจารและภาพอวัยวะเพศเข้ามือถือลูกสาวอีก จึงประสานตำรวจ สน.บางเขน ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด ซึ่งหลายคดีที่จับได้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เวลาทำผิดมักจะหนีไปบวชเป็นพระ จึงอยากฝากกระทรวงวัฒนธรรมช่วยสอดส่องและตรวจสอบด้วย พร้อมกับทางวัดช่วยดูด้วยว่าคนที่มาบวชอยู่ที่วัดเป็นบุคคลที่หลบหนีคดีมาหรือไม่
ด้าน น.ส.รุ่งรัตน์กล่าวว่า ตนเองคบหากับนายปรีชามาได้ 1 ปีเศษ โดยนายปรีชาเป็นผู้เช่าบ้านให้อยู่ แต่ตัวนายปรีชาไม่ได้มาอยู่ด้วยเนื่องจากนายปรีชาทำงานเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายจึงไม่สามารถอยู่เป็นหลักแหล่งได้ อีกทั้งตัวนายปรีชามีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเคยถูกจับคดียาเสพติดท้องที่ สน.คันนายาว และ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร ขณะนี้อยู่ในระหว่างประกันตัวในชั้นศาล โดยนายปรีชาเป็นคนอารมณ์รุนแรงมักทำร้ายทุบตีตนเป็นประจำ ต่อมาประมาณเดือนกรกฎาคม 2554 นายปรีชาได้กระทำอนาจารกับบุตรสาว โดยเข้ามาจับที่อวัยวะเพศและหน้าอกของบุตรสาวขณะที่บุตรสาวนอนอยู่บนที่นอน ซึ่งตนออกไปซื้อของนอกบ้าน เมื่อกลับเข้ามาบุตรสาวได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟังตนจึงไปสอบถามนายปรีชา แต่ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายปรีชาก็จะหาโอกาสเข้ามากระทำอนาจารลวนลามบุตรสาวอยู่เป็นประจำ ซึ่งตนพยายามจะพาบุตรสาวหนีแต่ถูกนายปรีชาข่มขู่ว่าหากหนีต้องหนีให้รอด ถ้าตามเจอจะฆ่าให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก ตนกับลูกสาวจึงหวาดกลัวมาก ต่อมาประมาณ 2 เดือนนายปรีชาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมตัวข้อหาลักทรัพย์และได้ประกันตัวออกมาจึงหนีไปบวชที่วัดดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ส่งรูปภาพอวัยวะเพศของตนเองพร้อมข้อความหยาบคายทางโทรศัพท์มือถือให้ ด.ญ.แอนดูทางโทรศัพท์มือถือ แต่ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้ใช้มือลูบคลำหน้าอกและจับต้องอวัยวะเพศของ ด.ญ.แอนแต่อย่างใด ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าลวนลาม ด.ญ.แอน ตนตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.รุ่งรัตน์น่าจะไปมีแฟนใหม่เลยหาเรื่องใส่ร้ายตน ทั้งนี้เมื่อปี 44 เคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติดที่ สน.คันนายาว ติดคุก 3 ปี พอออกมาต้นปี 55 ก็มาถูกจับในข้อหาขโมยรถอีกที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ อยู่ระหว่างประกันสู้คดีก็มาถูกจับคดีนี้อีกครั้ง