ตร.หนองจอกรวบสองหนุ่มแสบขโมยตู้คอนเทนเนอร์ขายเป็นเศษเหล็กแลกเงิน 1.8 หมื่นบาท แบ่งเงินไม่ลงตัว รปภ.การเคหะหนองจอกแจ้ง บ.เอกชน โร่เข้าแจ้งความจนถูกรวบในที่สุดตรวจพบเจอฉี่ม่วง
วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่ สน.หนองจอก พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.หนองจอก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.หนองจอก แถลงข่าวจับกุมนายนราวุฒิ หรือวุด สวนทอง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่7 ต.ท้ายตลาด อ.เมือง จ.ลพบุรี และนายชูพงศ์ หรือท็อป วิโย อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางตู้คอนเทนเนอร์เปล่า ยี่ห้อไลน์ สีแดง หมายเลขประจำตู้ TU112812 JP2200 ของบริษัท ดีมาร่า (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 1 ตู้ รถยกหกล้อยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 77-2867 กรุงเทพฯ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฆฉ 9177 กรุงเทพฯ ใบเสร็จรับเงินของบริษัท เจ.ที.เอ. สตีลเทรดดิ้ง ลงวันที่ 22 ก.ย. 2555 โดยนายนราวุฒิเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับเงิน
พ.ต.อ.ศราวุธเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 21 ก.ย. ตัวแทนบริษัทดีมาร่า เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก กรณีตู้คอนเทนเนอร์ที่วางไว้ตรงการเคหะหนองจอก หมู่ 9 ถนนมิตรไมตรี แขวงและเขตหนองจอก กทม. ถูกโจรกรรมหายไปเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบและนำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่เคหะหนองจอก และได้ติดตามนำตู้คอนเทนเนอร์คืนมาได้ที่ร้านรับซื้อของเก่าย่านสุวินทวงศ์
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวอีกว่า นายนราวุฒิทำงานเป็นช่างอะไหล่ที่โชว์รูมค่ายรถยนต์แห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี ส่วนนายชูพงศ์เคยเป็นคนงานก่อสร้างบริษัทดีมาร่า ทำงานมาได้ปีกว่าๆ ก่อนเกิดเหตุบริษัทดีมาร่าได้รับงานก่อสร้างที่ย่านเคหะหนองจอก และได้วางตู้คอนเทนเนอร์เปล่าไว้ นายชูพงศ์จึงชักชวนนายนราวุฒิให้ร่วมลักทรัพย์ โดยติดต่อไปที่ร้านรับซื้อของเก่าให้นำรถยกมายกตู้เปล่าไป โดยบอก รปภ.เคหะว่าจะมายกตู้ไปและได้นำไปขายต่อให้ร้านในราคา 18,000 บาท โดยตู้ดังกล่าวหนัก 2,310 กิโลกรัม หากนำไปตัดเป็นเศษเหล็ก จะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท รวมเป็นเงินแสนกว่าบาท อย่างไรก็ตามทางรปภ.ของเคหะรู้สึกเอะใจเพราะเคยทำงานที่บริษัทดีมาร่าด้วย จึงแจ้งไปทางบริษัท ทำให้บริษัททราบเรื่องและเดินทางมาแจ้งความที่สน.หนองจอก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าพึ่งจะก่อเหตุเป็นครั้งแรกและสาเหตุที่ทำก็เพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีฉี่ม่วงอีกด้วย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายและควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำร้านรับซื้อของเก่าด้วยว่าเกี่ยวข้องรู้เห็นในการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ต่อไป
วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่ สน.หนองจอก พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.หนองจอก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.หนองจอก แถลงข่าวจับกุมนายนราวุฒิ หรือวุด สวนทอง อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 65 หมู่7 ต.ท้ายตลาด อ.เมือง จ.ลพบุรี และนายชูพงศ์ หรือท็อป วิโย อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางตู้คอนเทนเนอร์เปล่า ยี่ห้อไลน์ สีแดง หมายเลขประจำตู้ TU112812 JP2200 ของบริษัท ดีมาร่า (ไทยแลนด์) จำกัด จำนวน 1 ตู้ รถยกหกล้อยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 77-2867 กรุงเทพฯ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฆฉ 9177 กรุงเทพฯ ใบเสร็จรับเงินของบริษัท เจ.ที.เอ. สตีลเทรดดิ้ง ลงวันที่ 22 ก.ย. 2555 โดยนายนราวุฒิเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับเงิน
พ.ต.อ.ศราวุธเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 21 ก.ย. ตัวแทนบริษัทดีมาร่า เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก กรณีตู้คอนเทนเนอร์ที่วางไว้ตรงการเคหะหนองจอก หมู่ 9 ถนนมิตรไมตรี แขวงและเขตหนองจอก กทม. ถูกโจรกรรมหายไปเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบและนำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่เคหะหนองจอก และได้ติดตามนำตู้คอนเทนเนอร์คืนมาได้ที่ร้านรับซื้อของเก่าย่านสุวินทวงศ์
พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวอีกว่า นายนราวุฒิทำงานเป็นช่างอะไหล่ที่โชว์รูมค่ายรถยนต์แห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี ส่วนนายชูพงศ์เคยเป็นคนงานก่อสร้างบริษัทดีมาร่า ทำงานมาได้ปีกว่าๆ ก่อนเกิดเหตุบริษัทดีมาร่าได้รับงานก่อสร้างที่ย่านเคหะหนองจอก และได้วางตู้คอนเทนเนอร์เปล่าไว้ นายชูพงศ์จึงชักชวนนายนราวุฒิให้ร่วมลักทรัพย์ โดยติดต่อไปที่ร้านรับซื้อของเก่าให้นำรถยกมายกตู้เปล่าไป โดยบอก รปภ.เคหะว่าจะมายกตู้ไปและได้นำไปขายต่อให้ร้านในราคา 18,000 บาท โดยตู้ดังกล่าวหนัก 2,310 กิโลกรัม หากนำไปตัดเป็นเศษเหล็ก จะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท รวมเป็นเงินแสนกว่าบาท อย่างไรก็ตามทางรปภ.ของเคหะรู้สึกเอะใจเพราะเคยทำงานที่บริษัทดีมาร่าด้วย จึงแจ้งไปทางบริษัท ทำให้บริษัททราบเรื่องและเดินทางมาแจ้งความที่สน.หนองจอก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าพึ่งจะก่อเหตุเป็นครั้งแรกและสาเหตุที่ทำก็เพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีฉี่ม่วงอีกด้วย
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายและควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำร้านรับซื้อของเก่าด้วยว่าเกี่ยวข้องรู้เห็นในการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ต่อไป
