ดีเอสไอ ลงพื้นที่หนองคายสางคดีไม้พะยูง เชื่อ จนท.เอี่ยวผลประโยชน์

หนองคาย - ดีเอสไอ ลงพื้นที่หนองคาย ตรวจสอบไม้พะยูง 2 ตู้คอนเทนเนอร์จากลาว ซึ่งเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ระบุในใบสำแดงสินค้าว่าเป็นไม้ประดู่ ดีเอสไอ ยันเป็นไม้พะยูงที่ลักลอบส่งออกจากประเทศไทยแล้วนำไปแปรรูปในลาวก่อนส่งประเทศที่สาม โดยคาดว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติมีส่วนรู้เห็น

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (29 ส.ค.) ที่สำนักงานด่านศุลกากรหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย พ.ต.ท.สุภัทร ธรรมธนารักษ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมกำลังจำนวนหนึ่งได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านป่าไม้หนองคาย-เวียงจันทน์ และฝ่ายปกครอง เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินคดีหลังจากวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ร่วมกันตรวจยึดไม้แปรรูปจำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ที่นำเข้าจากประเทศลาวผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย

โดยมีนางจุฑามาศ ณ หนองคาย เป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัททีอีซี โลจิสติกส์ ให้นำเข้าจากลาวไปยังท่าเรือคลองเตย ส่งต่อไปยังประเทศจีน โดยในเอกสารที่นางจุฑามาศ ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนระบุว่า เป็นประดู่เฟอร์นิเจอร์กึ่งแปรรูป จำนวน 19,352 ชิ้น ปริมาตร 29.845 ลูกบาศก์เมตร

แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีไม้พะยูงเฟอร์นิเจอร์กึ่งแปรรูปปะปนมาและซุกซ่อนอยู่ชั้นในถึง ร้อยละ 80 จึงถูกตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นายหนึ่งบอกว่า มีการสำแดงไม้ผิดประเภทและไม้พะยูงจำนวนนี้ถูกลักลอบขนจากประเทศไทยไปส่งที่โรงงานแปรรูปไม้ในประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว) ที่มีถึง 4 โรง ซึ่งนายทุนเป็นชาวต่างชาติ (ลาว) จากนั้นจะถูกนำเข้าเป็นสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศที่ 3 เป็นขบวนการเดียวกันที่เคยถูกจับกุมที่ท่าเรือคลองเตย 4 ตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 โดยมีผู้รู้เห็นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฏิบัติ

ส่วนครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นเป็นไม้พะยูงประมาณ 15 คิว เฉพาะมูลค่าไม้ที่ซื้อขายกันในประเทศไทยราคาคิวละประมาณ 5 แสนบาท หรือประมาณ 2 ล้านบาท หากส่งไปถึงประเทศที่ 3 มูลค่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 เท่าตัว แต่ถ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 10-20 เท่าตัว เพราะดูจากไม้พะยูงที่ทำเป็นไม้ตะเกียบจะมีราคาสูงถึงคู่ละ 4 พันบาททีเดียว

สำหรับการดำเนินคดี ในเบื้องต้นที่ประชุมตกลงกันว่าให้ทางศุลกากรดำเนินการตาม ม.99 ไปก่อน ซึ่งหากเข้า ม.27 ทางดีเอสไอ จะสามารถนำไปดำเนินคดีได้ทันที

ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมาย และหากสามารถดำเนินคดีตาม ม.27 แล้ว ดีเอสไอ จะสามารถทำการสอบสวนสอบสวนสาวหาผู้ร่วมขบวนการนี้ได้อย่างเต็มที่