ตร.ทลายแก๊งค้าเฮโรอีน-ยาไอซ์ 500 กก. บรรจุในแจกัน และเครื่องเซรามิก ส่งทางเรือไปให้ลูกค้าที่ออสเตรเลีย พร้อมยึดทรัพย์กว่า 40 ล้าน เผยได้รับการประสานจากออสเตรเลีย ก่อนตามรวบผู้ร่วมขบวนการได้ 4 ราย
วันนี้ (13 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. แถลงข่าวจับกุม นายสหรัก หรือหนุ่ม อังคณิต อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 129/2555 ลงวันที่ 8 ส.ค.2555 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ เช่น เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 9 บัญชี ที่ดินจำนวน 6 แปลง รถยนต์จำนวน 6 คัน ทองรูปพรรณ นาฬิกา และเงินสดอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้กว่า 40 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ริม ถ.สันป่าตอง-เชียงใหม่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากตำรวจออสเตรเลีย ประจำสำนักงานกรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการส่งสินค้าประเภทโคมไฟ แจกันเซรามิก และเครื่องปั้นดินเผาบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 2 ตู้ ส่งออกจากประเทศไทย โดยเรือบรรทุกสินค้าชื่อยูเอเอสซี จูเบล (UASC JUBAIL) ส่งไปยังบริษัทเบสแอทโฮม ตั้งอยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากรออสเตรเลีย พบเฮโรอีนบรรจุอยู่ 252 กก. ขณะที่อีกตู้ พบยาไอซ์ บรรจุอยู่ 280 กก. ตนจึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศรายนี้ และประสานข้อมูลกับกรมศุลกากร จนสืบทราบว่า แจกันและเซรามิกดังกล่าวถูกจัดเตรียมที่โกดังของ หจก.ชัยเกษมแพ็คกิ้ง เลขที่ 25/3 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้น พบสินค้าเซรามิกที่มีลักษณะเหมือน และเป็นชนิดเดียวกันกับสินค้าที่นำไปบรรจุเฮโรอีน และยาไอซ์ตามข้อมูลที่ตำรวจออสเตรเลียแจ้งมา นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์การผลิตกัญชา ประกอบด้วย เครื่องบด เครื่องอบแห้ง เครื่องตัด เครื่องแพกกิ้ง และกัญชาที่เหลือจากกระบวนการอบแห้ง จึงจับกุมตัวนายเตียม จอมเลิศ กับพวก รวม 3 คน พร้อมควบคุมตัวดำเนินคดี
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายสหรัก เป็นผู้ติดต่อกับ หจก.ชัยเกษมแพ็คกิ้ง ในการบรรจุสินค้าดังกล่าว และเป็นผู้ว่าจ้างให้ชิปปิ้งที่รู้จักกันมานานกว่า 10 ปี เป็นผู้ดำเนินการทางพิธีการศุลกากรเพื่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ 18 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.54-25 มิ.ย.55 โดยส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย 7 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ 8 ครั้ง และเบลเยียม 3 ครั้ง
ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินการปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า นายสหรัก เป็นผู้สั่งการตลอดจนเป็นผู้จ่ายเงินค่าดำเนินการทั้งหมด โดยนัดหมายให้รับค่าว่าจ้าง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ บ.ทีทีเอ็น เฟรท โลเจสติคส์ จำกัด เลขที่ 52 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เข้าจับกุมตัวนายสหรักได้ดังกล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายสหรักให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเจ้าตัวยอมรับว่า เคยเป็นชิปปิ้งมาก่อน แต่อ้างว่าไม่รู้ว่าภายในสินค้าที่จัดส่งมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า นายสหรักทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้สั่งการ และเป็นผู้ซื้อเครื่องเซรามิกจากด่านเกวียน และติดต่อผู้ที่รับดำเนินการเรื่องการบรรจุสินค้า รวมถึงติดต่อกับบริษัท ชิปปิ้งในการดำเนินการเรื่องพิธีการศุลกากร และจัดส่งสินค้าไปยังประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งสืบสวนขยายผลถึงตัวการสำคัญที่เป็นผู้สั่งการ และผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เชื่อว่ายังมีอีกหลายคน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทั้งนี้ ในกระบวนการส่งออกไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีเพียงบริษัทชิปปิ้งซึ่งมีหน้าที่ในการขนส่งสินค้า และดำเนินการเรื่องพิธีการศุลกากรเท่านั้น ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่า บริษัทชิปปิ้งไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะเรื่องการขนยาเสพติดน่าจะรู้กันในวงจำกัด
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า การส่งสินค้าไปต่างประเทศของนายสหรัก นอกจากแจกัน และเครื่องเซรามิกแล้ว ยังมีสินค้าจำพวกมาม่า ที่นอน โดยจะใช้บริษัทที่มีชื่อเสียงที่เคยส่งออกสินค้าเป็นหัว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยการส่งสินค้าทั้ง 18 ครั้ง ไม่ได้มียาเสพติดซุกซ่อนไปทุกครั้ง โดยเฉพาะ 4 ครั้งหลังสุด ที่ส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย มีเพียงครั้งสุดท้ายเพียงครั้งเดียวที่ยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ส่วนยาเสพติดที่ส่งไปยุโรปจะเป็นกัญชา ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกทางการออสเตรเลียควบคุมตัว 7 คน มีเพียง 1 คน ซึ่งเป็นชาวฮ่องกง เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
