ลุงอยุธยาร้องถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ตร.กองปราบ หลอกโอนเงินสูญครึ่งล้าน

คุณลุงชาวอยุธยาร้องถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจกองปราบฯ หลอกให้โอนเงินสูญ 5 แสน

วันนี้ (7 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นายไพโรจน์ สังข์สวัสดิ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 4 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กรณีที่ถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารจนต้องสูญเงินเป็นจำนวนมาก โดยนำหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน 6 ใบ และสำเนาบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองอ่างทอง มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

นายไพโรจน์กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำนา ซึ่งเมื่อวันที่ 6 กันยายนเวลาประมาณ 12.00 น.ขณะที่อยู่ที่บ้านเพียงลำพังเนื่องจากลูกชายออกไปธุระข้างนอกได้มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาด้วยหมายเลข +8613539091725 อ้างว่าโทรศัพท์มาจากองปราบปราม ต้องสงสัยว่าบัญชีตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก่อนโอนสายให้ผู้ชายพูด โดยชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามยศ ร.ต.อ. ขอตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของตน ซึ่งถูกระบุว่าเกี่ยวพันกับการกระทำความผิดของคนร้าย พร้อมกับให้ดำเนินการตามที่เขาสั่ง ด้วยความตกใจประกอบกับกลัวว่าจะไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงหลงเชื่อขับรถกระบะไปที่ตู้เอทีเอ็มซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 10 กิโลเมตร โดยคนร้ายให้โอนเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาอ่างทอง และธนาคารกรุงเทพ รวม 5 ครั้ง

นายไพโรจน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คนร้ายยังได้ให้ตนเบิกเงินสดจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีกเป็นจำนวน 270,000 บาท ก่อนนำไปฝากในตู้รับฝากเงินอัตโนมัติเข้าบัญชีของคนร้ายที่เปิดรอไว้แล้ว รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 488,988 บาท ซึ่งหลังจากโอนเงินคนร้ายได้โทรศัพท์มาบอกว่าจะขอตรวจสอบก่อนแล้วจะคืนให้ภายหลัง

“เมื่อลูกชายกลับมาบ้านพักผมจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และรู้ว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง จึงรีบเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทองทันที พร้อมกับประสานไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีที่ได้โอนเงินไป ซึ่งทางธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าบัญชีธนาคารที่รับเงินโอนจากตนไปมี 3 แห่ง ประกอบด้วย สาขารัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี สาขาตลาดมีโชค จ.เชียงใหม่ และสาขาถนนโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยอดเงินถูกถอนออกไปหมดแล้ว” นายไพโรจน์กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.นิรันดร์กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนนำข้อมูลประสานเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของกองบัญชาการสอบสวนกลางดำเนินการต่อไป