บอร์ดกลั่นกรองสีกากี ผ่านฉลุยแต่งตั้ง 45 นายพล “สมยศ-วรพงษ์-อัมรินทร์” ขยับเข้าไลน์ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. “วินัย” โยกคุมภาค 2 “สฤษฎ์ชัย” มือขวา “อดุลย์” ผงาดคุมการข่าวสันติบาล “เด็กคุณหญิงอ้อ” พรึ่บ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุม 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรอง การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ(ผบช.) วาระประจำปี 2555 โดยมี รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ร่วมประชุมกันครบ ในจำนวนนี้มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร.ว่าที่ ผบ.ตร.ร่วมประชุมด้วย ใช้เวลาประชุมเพียง 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนรวมทั้งสิ้น 45 ตำแหน่ง เป็นการแต่งตั้งเลื่อนขึ้น 37 ตำแหน่งและสับเปลี่ยน 8 ตำแหน่ง
รายงานข่าวระบุว่า บอร์ดกลั่นกรองพิจารณาแล้วเห็นชอบตามบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เสนอเข้ามา โดยบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายมีดังนี้ โยก พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็น รองผบ.ตร. พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็น จตช.โดยเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน และพล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10)
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่า บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบแต่งตั้งตามลำดับความอาวุโส ดังนี้ ให้ พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผบช.สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.กองบัญชาการศึกษา (ศ.) พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา จเรตำรวจ (จตร.)(สบ 8) พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ตำรวจภูธรภาค8 (ภ.8) พล.ต.ท.ภัทรชัย หิรัญญะเวช ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ท.อรรถพร อุทยานนท์ จตร.(สบ 8) และ พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม จตร.(สบ8) เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และให้ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน จตร.(สบ 8) ขึ้นเป็น รอง จตช.(สบ 9)
ขณะที่มีรายงาน ระดับ ผบช.บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบ ดังนี้ โยก พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 เป็น ผบช.ภ.2 คุมพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง ทั้งนี้ มีกระแสข่าวมาตั้งแต่ตอนที่ พล.ต.ท.วินัย ลุกจากตำแหน่ง ผบช.น.แล้วว่าตั้งใจจะย้ายไปลงในตำแหน่ง ผบช.ภ.2 แต่เนื่องจากติดขัดหลายปัจจัย ทำให้ต้องดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 ไปก่อน ขณะที่บอร์ดกลั่นกรองเห็นชอบโยก พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น เป็น ผบช.สพฐ.ตร.ทั้งนี้ มีกระแสว่า เหตุที่ถูกโยกย้ายเนื่องจากไม่สามารถทำงานสนอมตามนโยบายของฝ่ายการเมืองในหลาย โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการเมือง ส่วน พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 ซึ่งเป็นคนสนิทของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น ผบช.สตม.โดยให้ พล.ต.ต.เชิด ชูเวช รองผบช.ก. นรต.28 ซึ่งเติบโตในพื้นที่ บช.ภ.3 เป็น ผบช.ภ.3 คนใหม่
ทั้งนี้ เห็นชอบให้ พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รอง ผบช.ภ.4 คนสนิท ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 ให้ พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ประจำ สง.ผบช.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน นรต.30 ซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายปี ได้แรงหนุนจากหลายฝ่าย โยกเป็น ผบช.ภ.8 ให้ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น.ได้แรงหนุน คุณหญิงพจมาน ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9
ขณะที่เห็นชอบให้ พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) มือทำงานของ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้แรงหนุนจากหลายทางโดยเฉพาะ พล.ต.อ.อดุลย์ ให้ขึ้นเป็น ผบช.สันติบาล คุมงานด้านการข่าว พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รอง ผบช.ศชต.ลูกหม้อ ตชด.ขึ้นเป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รองผบช.รร.นรต.ลูกเขยกลุ่มบริษัทเกษตรรุ่งเรืองพืชผล ขึ้นเป็น ผบช.ศ.โยก พล.ต.ต.ชัยยง กีรติขจร จตร.(สบ8) เป็น ผบช.กตร. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม มือทำบัญชีแต่งตั้ง ลูกหม้อสำนักงานกำลังพลขึ้น เป็นผบช.สกพ. พล.ต.ต.วัฒนา สักวัตร รองผบช.ภ.5 เป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รอง ผบช.สทส.อดีตโฆษก ตร.ขึ้น ผบช.สทส. พล.ต.ต.สุชีพ หนูนาง รองผบช.7 เป็น ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน
ขณะที่ เห็นชอบให้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผบช.ภ.7 คนสนิทคุณหญิงพจมาน ซึ่งมีข่าวเดินทางไปฮ่องกง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็น ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษาประสาน บก.สส. พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผบช.สตม.ขึ้น ผบช.ประจำ ประสาน สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รองผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารด้านป้องกันปราบปราม พล.ต.ต.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ รองผบช.สยศ.ตร. ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รอง ผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำด้านนโยบายและแผน พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวานิช รอง ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน
นอกจากนี้ เห็นชอบให้ พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผบช.สกพ. เป็นหัวหน้า จตร.(สบ8) พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัธน์ รองผบช.สตม.คนสนิท พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ พล.ต.ต.สมโชค เจริญพร รองผบช.สกพ. พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ ไทยกล้า รองผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ณรงค์ กาญจนะ รองจตร.(สบ7) ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
ขณะที่มีรายงานว่า สำหรับกรณี พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีความอาวุโสอันดับที่ 8 นั้น ตร.มีความเห็นว่า เห็นควรให้อยู่บริหารพัฒนา รพ.ตร.ต่อ อีกทั้งในสายงาน รพ.ตร.นั้น ยังไม่มี ระดับรองนายแพทย์ใหญ่คนใดครบเกณฑ์แต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จึงอนุมัติให้ยังดำรงตำแหน่งเดิมไม่ขึ้นในระดับผู้ช่วยผบ.ตร.
ทั้งนี้ ในบอร์ดกลั่นกรองไม่มีการพูดถึงตำแหน่งของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม บัญชีแต่งตั้ง ที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองแล้ว จะนำเสนอให้ ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.พิจารณาเห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 1 สิงหาคม ทั้งนี้ หาก ก.ตร.เห็นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งใดไม่เหมาะสม ก็สามารถเสนอกลั่นกรองใหม่และเปลี่ยนแปลงได้ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า ก.ตร.จะเห็นชอบตามบัญชีแต่งตั้งฉบับนี้