xs
xsm
sm
md
lg

ก.ตร.แต่งตั้ง 47 นายพลตามโผ “ภาณุ” คุม สตม. ท“ชัชวาลย์” ที่ปรึกษา สบ 10

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.ชัชวาล์ สุขสมจิตร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ปรับเป็นที่ปรึกษา (สบ.10)
ก.ตร.ไฟเขียว ถกตั้ง 47 นายพลสีกากีตามโผเป๊ะ “เหลิม” กดไลก์ตั้ง “ภาณุ เกิดลาภผล” นั่ง ผบช.สตม.ถูกใจ ยอ “ปัญญา มาเม่น” เป็น ดร.เหมาะคุม สพฐ.ตร.งานสำคัญ รับเออีซี

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 11/2555 โดยมีวาระสำคัญ คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2555 ในตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึง ผู้บัญชาการ (ผบช.) และการขอเปิดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารยุทธศาสตร์ งานด้านปราบปรามยาเสพติดและการต่อต้านการก่อการร้าย โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร.จเรตำรวจแห่งชาติ และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าประชุมครบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ก.ตร.ได้นำวาระการแต่งตั้ง ซึ่งเดิมที่กำหนดเป็นเรื่องลำดับท้าย มาพิจารณาเป็นเรื่องแรก ใช้เวลาพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายจำนวน 47 ตำแหน่ง ตามบัญชีที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เสนอ ซึ่งเป็นบัญชีที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรองแล้ว ทั้งนี้ ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 50 นาทีเท่านั้น ก่อนที่ ก.ตร.จะมีการพักประชุม และเริ่มพิจารณาวาระขออนุมัติเปิดตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารยุทธศาสตร์ด้านงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดและการต่อต้านการก่อการร้าย ใช้เวลาเพียง 10 นาที ก่อนพิจารณาวาระอื่นๆ ต่อไป

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า การพิจารณาผ่านหมดแล้วตามบัญชีที่ตนเสนอ ส่วนตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ใหม่ก็อนุมัติเปิดเช่นกัน จากนี้ต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) อนุมัติตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะเร็วๆ นี้ แน่นอน จากนั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลลงในตำแหน่งได้

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การพิจารณาแต่งตั้งครั้งนี้พิจารณารวดเร็ว เห็นพ้องต้องกันตามที่ผบ.ตร.เสนอบัญชีมา ทุกตำแหน่งเป็นเอกฉันท์ มีการถามบ้างถึงเหตุผล แต่ไม่มีการโหวต ทุกตำแหน่งผ่านเอกฉันท์ สนับสนุนกันด้วยซ้ำ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่การแต่งตั้งระดับนี้รวดเร็วเป็นประวัติการณ์ ไม่มีปัญหาเลย เพราะการเมืองไม่เข้าไปยุ่งเลย ที่มีข่าวว่าโผจากการเมืองก็ไม่จริง ทั้งนี้ มีบางตำแหน่งที่ ก.ตร.ตั้งคำถาม เช่น การย้าย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 เป็น ผบช.สพฐ.ตร.นั้น ก็อธิบายเหตุผลว่า งาน สพฐ.ตร.เป็นงานที่สำคัญมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับพยานหลักฐาน จึงต้องใช้คนมีความรู้ความสามารถ จึงเลือก พล.ต.ท.ดร.ปัญญา มาดำรงตำแหน่งนี้ ที่บอกว่าลดเกรดเป็นการมองผิด บช.นี้สำคัญมาก อีกอย่างประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน งานด้านนิติวิทยาศาสตร์จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ดี

เมื่อถามถึงการย้าย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 ทั้งที่เพิ่งย้ายได้เพียง 1 เดือน ว่าเป็นเรื่องความเหมาะสม เมื่อย้าย พล.ต.ท.ปัญญาแล้วตำแหน่ง ผบช.ภ.2 ว่าง จึงเลือก พล.ต.ท.วินัย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และมีความสามารถไปดำรงตำแหน่งแทนก็เท่านั้น เรื่องการย้าย พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 ไปเป็น ผบช.สตม.ตนเห็นด้วยอย่างมาก มองว่าเหมาะสมมาก สนับสนุน โดนใจตนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าตนเป็นคนเลือก เพียงแต่บอกว่าถูกใจตำแหน่งนี้ ยืนยันอีกครั้งว่าการย้าย พล.ต.ท.ปัญญาไม่เกี่ยวกับอยบายมุข หรือสถานบันเทิง เป็นเรื่องความเหมาะสมที่ต้องการคนมีความสามารถ

“นอกจากนี้ ก.ตร.ยังเปิดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นใหม่ ซึ่งทุกคนเห้นว่าเหมาะสม ก.ตร.อนุมัติตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งเฉพาะตัว สามารถแต่งตั้งทดแทนได้ ส่วนการแต่งตั้งผู้มาดำรงตำแหน่งนี้ยังไม่ได้คุยกัน ไม่มีการล็อกสเปกตามที่เป้นข่าว ซึ่งการพิจารณาแต่งตั้งนั้น ดูตามความเหมาะสม แม้กฎ ก.ตร.จะระบุว่า ต้องแต่งตั้งตามความอาวุโส แต่หากผู้ที่อาวุโสไม่เหมาะสมก็สามารถเลือกคนที่เหมาะกว่าได้ กฎ ก.ตร.ยกเว้นได้” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.แถลงว่า การแต่งตั้งครั้งนี้มี 47 ตำแหน่ง เป็นที่ปรึกษา(สบ10) เข้าตำแหน่งหลัก 3 คน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้น 5 คน ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.มี พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ จตช.(สบ9) ขยับเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.1 คน มี ผบช.ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.10 คน ระดับ ผบช.ดยกในระนาบ 6 คน เลื่อนขึ้น 22 คน โดยใสตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้น พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่ ตร.ไม่ขอขึ้น เนื่องจากมีภารกิจต้องสานต่อ ก.ตร.จึงอนุมัติให้ พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม จตร.(สบ8) ซึ่งมีอาวุโสอันดับ 11 เลื่อนตำแหน่งขึ้นแทน สำหรับการเปิดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.นั้น เพิ่มจาก 17 ตำแหน่ง รวมเป็น 18 ตำแหน่ง แต่ตำแหน่งนี้ ซึ่งเรียกว่า ผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารยุทธศาสตร์ งานด้านปราบปรามยาเสพติดและการต่อต้านการก่อการร้าย แตกต่างจากตำแหน่งอื่น เพราะไม่สามารถเปลี่ยนหน้าที่การงานได้ ล็อกภารกิจตายตัว โดยมีการให้เหตุผลในการเปิดตำแหน่ง 2 ประการ คือ 1. ตามข้อเสนอจากอนุ ก.ตร.ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล 2. รองรับนโยบายรับบาลด้านต่อต้านก่อการร้ายเน้นการประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะ พม่า กัมพูชา ลาว เกี่ยวกับงานยาเสพติด และดูแลนายตำรวจประจำประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังกำหนดใหม่ เน้นงานก่อการร้ายเป็นหลัก

โฆษก ตร.กล่าวว่า ก.ตร.ได้อนุมัติ ขณะที่แก้ไขหลักเกณฑ์บรรจุทายาทตำรวจโดยเพิ่มกรณี พิการ ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไม่สามารถรับราชการได้ ให้บรรจุทายาทเข้าเป็นข้าราชการตำรวจได้ โดยให้สิทธิเหมือนกันทั่วประเทศ จากเดิมให้สิทธิเฉพาะตำรวจที่เสียชีวิตเท่านั้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ตำรวจและตอบแทนคุณความดี นอกจากนี้ก.ตร.ยัง กำหนดให้ตำรวจที่จะเข้าสังกัดสำนักงานตำรวจคนเข้าเมืองในระดับรองสารวัตรขึ้น ต้องมีทักษะด้านภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ ตามที่ ตร.กำหนด เช่น ภาษามาเลย์ พม่า เขมร ซึ่งหลักเกณฑ์นี้จะใช้ในการแต่งตั้งวาระปีหน้า ขณะเดียวกัน ปรับตำแหน่งโครงสร้างตำแหน่งนายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) ให้สอดรับกับกรมราชองครักษ์ โดยขออนุมัติเปิดตำแหน่งใหม่ 117 ตำแหน่ง เป็น นรป.(สบ 8) 1 ตำแหน่ง นรป.(สบ 6) 2 ตำแหน่ง และ ผู้บังคับการกองบังคับการถวายความปลอดภัย 1 ตำแหน่ง รองผบก.2 ตำแหน่ง ผกก.3 ตำแหน่งรอง ผกก.7 ตำแหน่ง สารวัตร 12 ตำแหน่ง รองสารวัตร 25 ผบ.หมู่ 64 ตำแหน่ง ทั้งนี้สำหรับตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.นรป. (สบ 8) นรป.(สบ 6) และ ผบก.ถปภ.ทั้ง 5 ตำแหน่งนั้นจะต้องขออนุมัติ ก.ต.ช.อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อทำการแต่งตั้ง โดยยังไม่ระบุว่า ต้องเมื่อ สำหรับการแต่งตั้ง 47 ตำแหน่งนี้ จะมีผลเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ระหว่างนี้ ตร.สามารถดำเนินการแต่งตั้งระดับรอง ผบช.-ผบก.ได้ทันที โดยมีการหารือกันว่าต้องทำภายในวันที่ 31 สิงหาคม ตามกฎ ก.ตร.นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังได้ขออนุมัติ ก.ตร.ขอให้ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าประชุม ก.ตร.เป็นครั้งคราว ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของประธาน ก.ตร.

ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับตำแหน่งที่ ก.ตร.อนุมัติแต่งตั้ง ทั้ง 47 ตำแหน่ง มีดังนี้ 1. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) 2.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นรอง ผบ.ตร.3.พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) 4.พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) 5.พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) 6.พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) 7.พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10) 8.พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ 10)

ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ประกอบด้วยลำดับที่ 9. พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ รอง จชต.(สบ9) เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.10.พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ผบช.สทส.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.11.พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.กองบัญชาการศึกษา (ศ.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.12.พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.13.พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา จเรตำรวจ (จตร.) (สบ 8) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.14.พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ตำรวจภูธรภาค8 (ภ.8) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.15.พล.ต.ท.ภัทรชัย หิรัญญะเวช ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.16.พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.17.พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม จตร.(สบ 8) เป็นผู้ช่วยผบ.ตร.18.พล.ต.ท.อรรถพร อุทยานนท์ จตร.(สบ 8) ขึ้นเป็น รอง จตช.(สบ 9) 19.พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน จตร.(สบ 8) ขึ้นเป็น รอง จตช.(สบ 9)

ขณะที่ระดับผู้บัญชาการ ลำดับที่ 20 พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ รอง ผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ภ.1
21.พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 โยกเป็น ผบช.ภ.2 22.พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น โยกเป็น ผบช.สพฐ.ตร. 23.พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 โยกเป็น ผบช.สตม.24.พล.ต.ต.เชิด ชูเวช รอง ผบช.ก.ขึ้นเป็น ผบช.ภ.3 25.พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รอง ผบช.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 26.พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่เชี่ยวชาญด้านสืบสวน โยกเป็น ผบช.ภ.8 27.พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9 28.พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ขึ้นเป็น ผบช.สันติบาล 29.พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รอง ผบช.ศชต. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด.30.พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบช.รร.นรต.ขึ้นเป็น ผบช.ศ.31.พล.ต.ต.ชัยยง กีรติขจร จตร.(สบ8) โยกเป็น ผบช.กตร.32.พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบช.สกพ.ขึ้นเป็น ผบช.สกพ.33. พล.ต.ต.วัฒนา สักวัตร รอง ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี 34.พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รอง ผบช.สทส.ขึ้นเป็น ผบช.สทส.

35.พล.ต.ต.สุชีพ หนูนาง รอง ผบช.7 ขึ้นเป็น ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน 36.พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รอง ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษาประสานบก.สส.37.พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รอง ผบช.สตม.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย 38. พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รองผบช.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารด้านป้องกันปราบปราม 39.พล.ต.ต.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ รอง ผบช.สยศ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ 40. พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รอง ผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำด้านนโยบายและแผน 41.พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวานิช รอง ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน 42. พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผบช.สกพ.โยกเป็น หัวหน้าจตร.(สบ 8) 43.พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัธน์ รอง ผบช.สตม.ขึ้นเป็น จตร.(สบ 8) 44.พล.ต.ต.สมโชค เจริญพร รอง ผบช.สกพ.ขึ้นเป็น จตร.(สบ 8) 45.พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รอง ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็นจตร.(สบ 8) 46.พล.ต.ต.พจน์ ไทยกล้า รอง ผบช.ภ.6 ขึ้นเป็น จตร.(สบ 8) และ 47.พล.ต.ต.ณรงค์ กาญจนะ รอง จตร.(สบ 7) ขึ้นเป็น จตร.(สบ 8)
พล.ต.ท.ภานุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 ปรับเป็น ผบช.สตม.
กำลังโหลดความคิดเห็น