xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นโค้งสุดท้ายว่าที่ “ผบ.ตร.” คนที่ 9 “อดุลย์-ปานศิริ” ใครเข้าวิน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตอนนี้คงต้องจับตากันไม่กะพริบเลยทีเดียว! สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) บ่าย 2 โมงครึ่ง “นายกฯปูแดง” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ต.ช.พิจารณา ผบ.ตร. คนที่ 9. ลุ้นหวย! “บิ๊กปทุมวัน” ลือหึ่ง “อดุลย์” นอนมา!

พรุ่งนี้ (16 ก.ค.) จะเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของประเทศไทย ที่ทำให้บรรยากาศวงการสีกากีเมืองไทยเร่าร้อนไปทันทีไม่แตกต่างไปจากประเด็นการเมืองไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในการยกร่างแก้ไข รธน.ปี 50 ที่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี ชื่นมื่นกันทุกฝ่าย วันพรุ่งนี้คอข่าวต้องมาลุ้นดูกันที่ประเด็นว่าผลการประชุม ก.ต.ช.ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) จะลงนามแต่งตั้งใครมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้

ณ เวลานี้ซึ่งถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายแล้ว ที่จะมาลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ได้รับการพิจารณาจากนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้มีอำนาจโดยตรงให้มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 9 ระหว่าง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.สองนายตำรวจแคนดิเดตที่มีการประเมินกันมาก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองท่านอยู่ใน โผ “ผบ.ตร.” คนต่อไปอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว

“หวย” จะออกที่ใครคงต้องมาลุ้นกันบ่ายวันพรุ่งนี้?!

เมื่อเรามาดูกัน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ระบุถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ใน 2 มาตรา คือ มาตรา 51 และมาตรา 53 โดยระบุว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศ พล.ต.อ.ขณะที่กระบวนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้นให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจ แล้วเสนอ ก.ต.ช.เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลฯเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ครั้งนี้ มีประเด็นความสงสัยอยู่มากทีเดียว ว่า เร็วกว่าปกติที่เคยมีการปฏิบัติมาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ในการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.จะเป็นช่วงเดือน ส.ค. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ตอบประเด็นคำถามนี้ได้เพียงว่า “ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะเพิ่งรู้จาก พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รองผบ.ตร.โทรศัพท์เข้ามาเมื่อวาน ว่า จะต้องรีบกลับมาเมื่อวาน ส่วนเมื่อถามว่า มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบจริงๆ”

แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ปฏิเสธ” ไม่ได้เลยว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป ต้องมาจากสายสัมพันธ์กับ “ทักษิณ” และได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษมากกว่าระบบ “อาวุโส” ที่ปฏิบัติเป็นธรรมเนียมประเพณีสืบกันมาในวงราชการตำรวจ ซึ่งเพี้ยนไปจากเดิมนับแต่มี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547

ซึ่งที่ผ่านมา “ทักษิณ” เองเมื่อครั้งยังมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็เคยได้ เป็นประธาน ก.ต.ช.เคยมีความพยายามเสนอ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองผบ.ตร.อ่อนอาวุโส ขึ้นเป็น ผบ.ตร.เบียด พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองผบ.ตร.ที่อาวุโสสูงสุดในขณะนั้น แต่ความพยายามดังกล่าวก็ไม่สำเร็จ “ทักษิณ” ต้องยอมเลือก “โกวิท” เพราะสู้กระแสสังคมในขณะนั้นไม่ไหว

อีกยุคที่มีการกระทำไม่แตกต่างจากยุค “ทักษิณ” ก็คือ ตอนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นประธาน ก.ต.ช.ได้มีเหตุผลทางการเมืองทำให้เมินหลักอาวุโส ปฏิเสธการเสนอชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็น ผบ.ตร.ซึ่งขณะนั้น “เพรียวพันธ์” ถือว่าเป็นนายตำรวจที่อาวุโสสูงสุดใน สตช.แต่ “อภิสิทธิ์” ก็กลับเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอ่อนอาวุโสกว่า ให้เป็น ผบ.ตร.แทน อันด้วยเหตุผลทางการเมือง เพราะ พล.ต.อ.ปทีป มีสายสัมพันธ์กับ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ด้วยหลายปัจจัยในขณะนั้น จึงทำให้ไม่สามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.ได้เช่นกัน จนมาลงเอยที่ พล.ต.อ.วิเชียร์ พจน์โพธิ์ศรี ในที่สุด

มากันที่ยุคนี้สมัยนี้การแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 9 ครั้งนี้ หลายคนคงมีคำถามว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรี จึงไม่เลือก พล.ต.อ.ปานศิริ ทั้งที่ฝีไม้ลายมือก็จัดว่ามีความรู้ความสามารถเหมาะสม อีกทั้งมีความอาวุโสสูงสุด เกษียณอายุราชการในปี 2556 ให้เป็น ผบ.ตร.ไปก่อน แล้วค่อยเสนอชื่อ พล.ต.อ.อดุลย์ รับไม้ต่อเป็น ผบ.ตร.คนต่อไปในอีกวาระก็ได้ แต่เหตุไฉน?! ชื่อ “พล.ต.อ.อดุลย์” จึงเบียดมาแซง “พล.ต.อ.ปานศิริ” มาได้ ทั้งๆ ที่ก็ทราบกันดีอยู่ว่า พล.ต.อ.ปานศิริ เป็นรุ่นน้องตำรวจ (นรต.28) ของ “ทักษิณ” ซึ่งเป็นรุ่นพี่ตำรวจ (นรต.26) และเคยอยู่ในฐานะนายตำรวจคนสนิทของ “ทักษิณ” ด้วยเช่นกัน แต่รู้สึกว่า “ทักษิณ” จะให้ความสำคัญกับ “พล.ต.อ.ปานศิริ” ลดลงหลังมีข่าววงใน ว่า มีการเคืองๆ กันในช่วงที่ “ทักษิณ” เสื่อมถอยหมดอำนาจลง ชื่อ “พล.ต.อ.อดุลยอ จึงพลิกโผแซง “พล.ต.อ.ปานศิริ” กลายเป็นน้องรักขึ้นมาในทันที!!!

สองแคนดิเดตเบอร์ 1 สีกากีไทยทั้งสองคน ถ้าเทียบความรู้ความสามารถแล้วไม่หนีกัน สำคัญตรงที่ใครจะเป็นผู้ถูกเลือกจากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจเท่านั้น ซึ่งที่สุดแล้วใครจะเป็น ผบ.ตร.ต้องจับตาการประชุม ก.ต.ช.ในบ่ายวันจันทร์นี้ ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในนาทีสุดท้ายว่าหวยจะออกที่ใคร ไม่มีใครรู้นอกจาก “นายกฯปู” คนเดียว

ว่าที่ “ผบ.ตร.” คนที่ 9 จะเป็นใครไม่สำคัญ เท่ากับตำแหน่งเบอร์ 1 สีกากี ก็ยังหนีไม่พ้นวังวนวงจรอุบาทว์ของพวกนักการเมืองอยู่ดี แล้วอย่างนี้อนาคตประชาชนจะไปหา “ข้าราชการตำรวจใจซื่อมือสะอาด” ได้อย่างไร?! เมื่อตำแหน่ง ผบ.ตร.กี่ยุคกี่สมัยก็ยังเดิมพันด้วยต้นทุนทางการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น