ตร.รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขออนุมัติหมายจับเลขานุการสาว ที่นำเอกสารของผู้บริหารสาวฝ่าย การตลาดบริษัทบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ไปเปิดบัตรเครดิต และนำไปรูดซื้อสินค้า บริการสร้างความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีธนาคารและสถาบันการเงิน 9 แห่ง เข้าแจ้งความดำเนินดคีกับเลขานุการสาวที่นำเอกสารของผู้บริหารสาวฝ่าย การตลาดบริษัทบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ไปเปิดบัตรเครดิตและนำไปรูดซื้อสินค้า บริการสร้างความเสียหายกว่า 5.3 ล้านบาท ว่า จากการสอบปากคำตัวแทนธนาคารที่ได้รับความเสียหายแล้ว เชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหา คนนี้กระทำการเพียงลำพัง โดยลักลอบนำเอกสารของผู้บริหารที่ตัวเองทำงานให้ไปใช้โดยมิชอบ โดยเชื่อว่า ผู้บริหารที่ถูกแอบอ้างชื่อและเอกสารไปใช้นั้นไม่ทราบเรื่องเพราะเบื้องต้น ไม่พบว่ามีการใช้หนังสือมอบอำนาจจากผู้บริหารให้มาดำเนินการขอใช้บัตรเครดิต แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ส่วนบัตรเครดิตที่นำชื่อผู้บริหารไปเปิดใช้นั้นก็พบว่ามีการนำไปรูดซื้อสินค้าบริการ และนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้หนี้บัตรเครดิตใบอื่นลักษณะหมุนเงิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และความผิดเกี่ยวกับการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิผู้อื่น ส่วนการสอบสวนรวบรวมหลักฐาน คาดว่า คงใช้เวลาอีกไม่นานก็น่าจะพิจารณาเรื่อง การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ เพราะหลักฐานที่ทางธนาคารต่างๆ นำมาให้นั้นเอกสารค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานขอภาพผู้ถูกกล่าวหาจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจากธนาคารที่ได้รับความเสียหายแต่ละแห่งมาประกอบด้วย