xs
xsm
sm
md
lg

ปล่อยแล้วแพะ “แท็กซี่” ตร.ทำขวัญ 2 หมื่น! คุก 9 วัน!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผบช.น.แถลงกรณี ตร.จับ แพะแท็กซี่ พร้อมชดเชยเงินให้ผู้เสียหายตกเป็นจำเลย จำนวน 20,000 บาท เป็นค่าทำขวัญ
ผบช.น.แถลงยอมรับ ตร.จับ “แท็กซี่โจร” ผิดตัว หลังต้องตกเป็นจำเลยนอนคุก 9 วัน ตร.กลัวโดนฟ้องจ่าย 2 หมื่น ค่าทำขวัญ ด้าน “รอง ผบช.น.” วอนเห็นใจตำรวจทำตามหน้าที่ชี้เจ้าทุกข์รุม ชี้ตัวถึง 4 คน ประจักษ์พยานหลักฐานครบ! มัด “แพะ” เข้าซังเต! เดชะบุญฟ้ามีตาพระคุ้มครองคนดี หลังจอมโจรแท็กซี่ตัวจริงลอยนวล เหิมเกริม “สวมทะเบียนปลอม” ไปก่อคดีลักษณะเดียวกันอย่างสิ้นคิด ก่อนจนมุมถูกตำรวจจับสารภาพสิ้นก่อคดี “ปล้น-ข่มขืน” เหยื่อมา 16 ราย!!

จากกรณีที่ตำรวจ สน.ลาดกระบัง พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนจาก บก.น.3 จับกุม นายชรินทร์ ช้ำเกตุ อายุ 35 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ถูกผู้เสียหาย คือ น.ส.ชลลดา จาระสิทธิ์ อายุ 25 ปี พนักงานฝ่ายครัว บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าแจ้งความว่าถูกนายชรินทร์ปล้นทรัพย์สินบริเวณหน้าวัดคุณแม่จันทร์ ถนนเลียบทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ขณะโดยสารรถแท็กซี่ให้ไปส่งตามที่หมาย พร้อมกับชี้ตัวนายชรินทร์ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง รวมถึงมีผู้เสียหายอีกประมาณ 4 คนเข้าชี้ตัวเช่นกันว่าถูกนายชรินทร์ก่อเหตุชิงทรัพย์ ซึ่งตำรวจได้จับกุมนายชรินทร์เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลบาล นายชรินทร์ ช้ำเกตุ ผู้เสียหายที่เป็นแพะรับบาป เดินทางมาเพื่อทำความเข้าใจต่อสื่อมวลชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธุปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง ร่วมชี้แจงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีดังกล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า กรณีมีผู้ต้องหาเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้โดยสาร และบางรายถูกกระทำชำเราด้วย ซึ่งถือเป็นภัยที่ร้ายแรง เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2555 หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความที่ สน.ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และได้ออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชรินทร์ ช้ำเกตุ อายุ 35 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัวและถูกฝากขังเป็นเวลา 2 วัน ตามระเบียบของตำรวจ หลังจากนั้น วันที่ 11 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนร้ายตัวจริงได้ คือ นายทินภัทร สิริโสภาโชติกุล อายุ 36 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ซึ่งเป็นคนร้ายตัวจริงที่ก่อเหตุและยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือเอง ทำให้นายชรินทร์ผู้ต้องหาคนแรกได้ติดคุกเป็นเวลา 9 วัน โดยวันนี้ได้เชิญนายชรินทร์มาทำความเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและจะไม่ฟ้องร้องใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เจ้าตัวยืนยันว่าจะเป็นคนดีของสังคมและแจ้งข้อมูลการกระทำผิดให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในโอกาสต่อไป

นายชรินทร์กล่าวว่า ตั้งแต่ก้าวแรกถึงขณะนี้ที่ออกมาจากข้างใน คิดอยู่ในใจเสมอว่าจะไม่เรียกร้องกับเจ้าทุกข์ที่ชี้ตัวตน ซึ่งเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายเหมือนกัน โดยตนอยากอยู่กับครอบครัว โดยพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว และอยู่กับแม่กับลูกอีก 2 คน และต้องการแค่อิสรภาพ ทั้งนี้ ตนทำงานอยู่ที่โรงแรมบางกอกซาฮาร่า สุขุมวิทซอย 5 ตำแหน่งพนักงานคอมพิวเตอร์ธุรการ ส่วนการขับรถแท็กซี่เป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น

นายชรินทร์กล่าวอีกว่า วันนั้นที่เดินทางมามอบตัวก็เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้กระทำอย่างนั้นจริง แต่ตำรวจมีข้อมูลที่ยืนยันได้ จึงถูกดำเนินคดีโดยติดคุกทั้งหมด 9 วัน ที่ สน.ลาดกระบัง 2 วัน และที่เรือนจำมีนบุรีอีก 7 วัน ขอยืนยันว่าตนไม่รู้จักกับคนร้ายตัวจริง คงป็นเพราะความโชคร้ายมากกว่า

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวปิดท้ายว่า ตนไม่โทษผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะเชื่อว่าได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผู้ต้องหาที่เป็นคนแรกนั้น มีหน้าตาคล้ายผู้ต้องหาตัวจริง ทะเบียนรถแท็กซี่ก็หมายเลขตรงกัน และมีผู้เสียหายมายืนยันอีก และได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาทเพื่อเป็นกำลังใจต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานฝ่ายครัวของการบินไทยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ชิงทรัพย์ โดยจำหมายเลขทะเบียนได้ คือ มจ 621 ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามที่ น.ส.ชลลดาให้ข้อมูล กระทั่งนายชรินทร์ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจ และมีผู้เสียหายที่ทราบข่าวเดินทางเข้ามาชี้ตัวอีก 4 คน โดยชี้ตรงกันหมด ตำรวจจึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าวว่า หลังจากนั้นไม่กี่วันได้เกิดคดีในลักษณะเดียวกันอีก ซึ่งผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สน.ลาดกระบัง ว่าถูกคนขับแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มจ-621 ทำร้ายและข่มขืน แต่เนื่องจากนายชรินทร์ถูกจับกุมไปแล้ว ตำรวจชุดสืบสวนจึงรื้อคดีขึ้นมาใหม่พร้อมทั้งเร่งสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย เพราะสงสัยว่าจะเป็นการจับผิดตัว กระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับ นายทินภัทร สิริโสภาโชติกุล ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 615/2555 ลงวันที่ 10 ก.ค. 2555 ในข้อหาข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ, ข่มขืนกระทำชำเรา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนติดตามจับกุมตัวและยึดของกลางเป็นรถแท็กซี่โตโยต้า สีเชียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน มจ 9216 มีดปลายแหลม สติกเกอร์ทะเบียนรถสีเหลืองที่ใช้ติดของประตูรถด้านในของแท็กซี่ระบุทะเบียน มจ 621 จำนวน 2 แผ่น และเอกสารของผู้เสียหาย 16 ราย ซึ่งนายทินกรรับสารภาพว่าก่อเหตุปล้นผู้โดยสารจริง และบางรายได้ลงมือข่มขืนด้วย อีกทั้งได้ตัดสติกเกอร์ทะเบียนรถแท็กซี่ปลอมนำมาติดทับทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุไว้ภายในรถโดยสาร เพื่อตบตาผู้เสียหายกรณีที่ไปแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามผู้เสียหายทั้งหมดที่ถูกนายทินภัทรก่อเหตุ เพื่อให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดติดต่อได้แล้ว 12 ราย ติดต่อไม่ได้ 2 รายและไม่ได้แจ้งความ 2 ราย

“อยากให้เห็นใจการทำงานของตำรวจด้วย เพราะตำรวจก็ปฏิบัติงานตามหน้าที่ มีผู้เสียหายมาแจ้งความพร้อมกับชี้ตัวตรงกันถึง 4 คน ตำรวจก็ต้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่าจับผิดตัวก็รีบดำเนินการนำตัวกับทางศาลเพื่อขอปล่อยตัวผู้ต้องหาทันที หลังจากที่ถูกคุมขังอยู่ 9 วัน ทางตำรวจไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ซึ่งนายชรินทร์ก็ไม่ได้ติดใจเอาความและไม่คิดจะฟ้องร้องแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่มีการนำเสนอข่าวว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สั่งให้ปิดข่าว พร้อมทั้งไม่ยอมแถลงข่าวหลังจากที่รู้ว่าจับผิดตัว เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะทางตำรวจไม่ได้จัดแถลงข่าวตั้งแต่ต้น เนื่องจากผู้ต้องหามามอบตัวและมีสื่อมวลชนมาทำข่าว” พล.ต.ต.พิสิฏฐ์กล่าว

จากการตรวจสอบพบว่า นายทินภัทร ผู้ต้องหาตัวจริง ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้โดยสารในหลายท้องที่ โดย สน.ลาดกระบังก่อเหตุ 2 ราย สน.บึงกุ่ม ก่อเหตุ 2 ราย สน.บางชัน ก่อนเหตุ 3 ราย สน.พญาไท 1 ราย สน.วังทองหลาง 3 ราย และสน.อุดมสุข 3 ราย ซึ่งมีผู้เสียหายบางรายถูกข่มขืนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น