xs
xsm
sm
md
lg

คางคกตัวพ่อ แกว่งปากหาคุก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จตุพร พรหมพันธ์
ตรงเป้า / ศรรามา

เป็น “คดีดัง” มาข้ามปี คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ หมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง จนกระทั่งวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 จึงได้รับการพิพากษาจากศาลอาญา

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 นายจตุพรแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย ระบุการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ของนายอภิสิทธิ์นายกรัฐมนตรี เพื่อถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ไม่ถวายความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ นั่งเก้าอี้เสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการตีตนเสมอเจ้า ซึ่งไม่เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรีคนไหน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในลักษณะนี้

นายอภิสิทธิ์ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

เหตุเกิดที่แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. ขอให้ศาลลงโทษตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332

ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ เห็นว่า การเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ทางสำนักพระราชวังเป็นผู้กำหนดรายละเอียด ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล

ฝ่ายโจทก์มีหลักฐาน เป็นภาพถ่ายของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน

ศาลเห็นว่า นายจตุพรมีตำแหน่ง ส.ส. น่าจะรู้วิธีการและขั้นตอนเรื่องนี้ และคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายจตุพร เข้าลักษณะ “เกินเลย” ไปกว่าฐานะ ส.ส. ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

จึงเป็นการกระทำที่ทำให้นายอภสิทธิ์ได้รับความเสียหาย ตามมาตรา 328 พิพากษาจำคุกนายจตุพรมีกำหนด 6 เดือน และปรับ 5 หมื่นบาท แต่นายจตุพรไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน ศาลปรานีลดโทษเหลือรอลงอาญามีกำหนด 2 ปี ให้ลงคำพิพากษาย่อใน นสพ.มติชน และ นสพ.ผู้จัดการ ติดต่อกัน 7 วัน โดยนายจตุพรเป็นคนออกค่าใช้จ่าย

ส่วนค่าปรับนั้น ถ้านายจตุพรไม่เสียค่าปรับ ให้ลงโทษกักขังแทน

นายจตุพรจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน และขอสู้คดีถึงศาลฎีกา ก็ไปเป็นตามฟอร์มของนายจตุพร ที่สังคมรับทราบจากการกระทำของเขา ไม่ว่าจะไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสอบถามว่าเหตุใดจึงยื่นเรื่องขอให้ศาลยุติธรรมถอนประกันตนหรือแม้กระทั่งวันที่มาฟังคำพิพากษาของศาลอาญา

ภาพที่ปรากฏนั้น นายจตุพรเดินอยู่ตรงกลางแถวหน้า แวดล้อมด้วยองครักษ์ซ้ายขวาและแถวหลัง ร่วม 10 คน เดินส่ายอาดๆ เหมือนแก๊งสเตอร์ในภาพยนตร์บอกตามตรง มีคนหมั่นไส้มากกว่าชื่นชม ต้องการแสดงความยิ่งใหญ่ หรือว่ากลัวตาย ก็ไม่ทราบเพราะปัจจุบันนายจตุพรมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองถึง 4 กระบอก

.38 มม. 1 กระบอก ทะเบียน กท. 54235516

9 มม. 1 กระบอก ทะเบียน กท. 54267043

7.65 มม. 1 กระบอก ทะเบียน กท. 53113929

และลูกซองยาวอีก 1 กระบอก ทะเบียน กท. 5462479

ทั้ง 4 กระบอกได้รับอนุญาตจาก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะที่ตำรวจกำลังกวาดล้างอาวุธปืน ถ้าปืนมีทะเบียนก็ต้องเอาไปตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อคดีอะไรหรือเปล่า เพราะปืนเป็นต้นเหตุของการก่อคดีอุกฉกรรจ์ แต่รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยในฐานะนายทะเบียน กลับสวนกระแส อนุญาตให้คนคนเดียวมีปืนถึง 4 กระบอก

นายจตุพรเคยติดคุกลาดยาวมาแล้ว เมื่อถูกศาลถอนประกันในคดีก่อการร้ายไม่รู้ว่านายจตุพรไปติดอกติดใจกลิ่นอายอะไรในนั้น ถึงอยากให้ปากพาเข้าคุกอยู่ร่ำไป นายจตุพรยังมีคดีความกับนายอภิสิทธิ์อีก

คดีหมิ่นประมาทกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ สั่งทหารฆ่าประชาชน และคดีหมิ่นประมาทกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์หนีทหารทั้ง 2 คดีศาลยังไม่ได้ตัดสิน

คดีหมิ่นประมาทตีตนเสมอเจ้า ยกแรกเฉียดคุกไปแล้วอีก 2 คดีที่เกิดจากการแกว่งปาก จะพาคางคกตัวพ่อที่ชื่อ “จตุพร” ก้าวเท้าเข้าคุกอีกครั้งไหมเอ่ย
กำลังโหลดความคิดเห็น