ปธ.สอบข้อเท็จริง เผยความคืบหน้ากรณีสมาคมขนส่งทางบก ตำรวจทางหลวงรับส่วยรถบรรทุก คาด 1 สัปดาห์แล้วเสร็จ หลักฐานและข้อมูลที่รวบรวมได้ขณะนี้ยังไม่เชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส่วนภาพได้มาจากกรมทางหลวง
วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร้องเรียน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงรับส่วยรถบรรทุก และปล่อยปละละเลยให้มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดจำนวนมากวิ่งอยู่บนท้องถนน เปิดเผย ความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯ ได้เชิญนายกสมาคมขนส่งทางบกฯ และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ร้องเรียนและหลักฐานต่างๆ แล้ว เบื้องต้นทราบว่าข้อมูลและพยานหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย และซีดีที่ทางสมาคมนำมาร้องเรียนนั้นได้มาจากเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงฯ และขณะนี้ทางคณะกรรมการอยู่ระหว่างการติดตามตัวเจ้าของรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานและมีสติกเกอร์ติดไว้ที่รถตามที่ปรากฏในภาพถ่าย ที่สามารถจับกุมได้บริเวณ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มาสอบปากคำ หากเจ้าของคนคันดังกล่าวเข้าให้การปากคำก็จะดำเนินการสืบสวนต่อไปว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นของบุคคลหรือหน่วยงานใดที่ออกให้ และมีการจ่ายเงินผ่านทางไหน คาดต้องใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์น่าจะมีความชัดเจน
พล.ต.ท.ไถงกล่าวด้วยว่า ส่ำหรับพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมได้ยังไม่เชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด พร้อมยอมรับว่ากรณีดังกล่าวนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่กว้างเกินไป จึงต้องใช้เวลาสักระยะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ สุ่มตรวจตามทางหลวงทั่วประเทศ หากพบความผิดปกติหรือมีสัญลักษณ์ตามป้ายรถ เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุมให้ดำเนินการจับกุมและนำตัวมาสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
วันนี้ (9 ก.ค.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร้องเรียน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงรับส่วยรถบรรทุก และปล่อยปละละเลยให้มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดจำนวนมากวิ่งอยู่บนท้องถนน เปิดเผย ความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯ ได้เชิญนายกสมาคมขนส่งทางบกฯ และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ร้องเรียนและหลักฐานต่างๆ แล้ว เบื้องต้นทราบว่าข้อมูลและพยานหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย และซีดีที่ทางสมาคมนำมาร้องเรียนนั้นได้มาจากเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงฯ และขณะนี้ทางคณะกรรมการอยู่ระหว่างการติดตามตัวเจ้าของรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานและมีสติกเกอร์ติดไว้ที่รถตามที่ปรากฏในภาพถ่าย ที่สามารถจับกุมได้บริเวณ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มาสอบปากคำ หากเจ้าของคนคันดังกล่าวเข้าให้การปากคำก็จะดำเนินการสืบสวนต่อไปว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นของบุคคลหรือหน่วยงานใดที่ออกให้ และมีการจ่ายเงินผ่านทางไหน คาดต้องใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์น่าจะมีความชัดเจน
พล.ต.ท.ไถงกล่าวด้วยว่า ส่ำหรับพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมได้ยังไม่เชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด พร้อมยอมรับว่ากรณีดังกล่าวนั้นเป็นการให้ข้อมูลที่กว้างเกินไป จึงต้องใช้เวลาสักระยะ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ สุ่มตรวจตามทางหลวงทั่วประเทศ หากพบความผิดปกติหรือมีสัญลักษณ์ตามป้ายรถ เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุมให้ดำเนินการจับกุมและนำตัวมาสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป