ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ทำหนังสือขอย้ายตัวเองช่วยราชการที่ บช.ก.30 วัน ในระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบกรณีสมาคมขนส่งทางบกฯ ได้นำรถบรรทุกปิดถนนด่านชั่งน้ำหนักถาวรบ้านตึก จ.ชัยนาท ด้าน ผบ.ตร.เผยผลเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจตรงกันและจะพยายามแก้ไขจุดบกพร่อง
วันนี้ (21 ม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้ทำหนังสือที่ 0026.3/3147 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2555 ถึง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก. เรื่องสมัครใจมาปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระยะเวลา 30 วัน มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้รอง ผบก.อาวุโสอันดับ 1 รักษาราชการแทน ทั้งนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการตรวจสอบกรณีที่สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้นำรถบรรทุกปิดถนนที่ด่านช่างน้ำหนักถาวรบ้านตึก จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้มีการชุมนุมเพื่อร้องเรียนการปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวง ที่บริเวณด่านช่างน้ำหนักถาวร จ.ชัยนาท โดยได้มีการยื่นขอเสนอย้าย ผบก.ทล. และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวง
“กระผมขอเรียนว่า ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่ง ผบก.ทล. ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของ ผบช.ก. และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยได้เข้มงวดกวดขันในเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดมาโดยตลอด และต่อเนื่อง เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจราจรให้เกิดความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน จนทำให้กลุ่มผู้ร้องเรียนเสียผลประโยชน์จึงรวมตัวกันมาร้องเรียน ดังนั้น เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโปร่งใส กระผมจึงขอสมัครใจไปปฏิบัติราชการที่ บช.ก. มีกำหนด 30 วัน สำหรับการรักษาราชการแทนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 72 โดยให้ รอง ผบก.ทล.ที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นรักษาราชการแทน” หนังสือดังกล่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ เคยไปร้องเรียนต่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และไม่พบว่ามีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ขณะที่ พล.ต.ต.นรบุญได้ฟ้องกลับสมาคมฯ ที่ทำให้เสียชื่อเสียงแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ไปเจรจากับทางสมาคมฯด้วยตนเอง ซึ่งการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน ซึ่งตำรวจเองก็ยอมรับในส่วนที่ตนเองบกพร่อง หรือทำไม่ถูกต้อง และพร้อมจะแก้ไข ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.นรบุญมีหนังสือของย้ายตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าตัวสมัครใจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องนี้ ซึ่งทางให้ ตร.ก็ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว