นครบาล บุกรวบตัวผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางอาวุธสงคราม และยาเสพติดหลายรายการ ที่แมนชั่นย่านห้วยขวาง หลังสืบทราบว่าเป็นเอเยนต์ค้ายา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อาวุธสงครามเป็นของเพื่อนที่นำมาฝากไว้ พบประวัติเคยถูกจำคุกในคดีเดียวกัน และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปลายปีที่แล้ว
วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทรวรลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กตว.บก.สปพ.เจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสมพงษ์ หรือบอย เสือปรางค์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 1 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี และน.ส.กนกนารถ หรือ อ้อ ไกรพล อายุ 19 ปี พร้อมของกลางระเบิดชนิดขว้าง M67 หรือระเบิดลูกเกลี้ยง จำนวน 14 ลูก กระสุนปืนอาก้า AK47 จำนวน 1,500 นัด อยู่ในกล่องเหล็กจำนวน 2 กล่อง ยาไอซ์ 3 กรัม กล้องส่องทางไกล 1 ตัว อุปกรณ์เสพยาจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ จำนวนมาก และรถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคเอชอาร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมตัว นายสมพงษ์ ได้ที่ ศิริสุข แมนชั่น ห้อง 2614 ชั้น 6 ซอยประราษฎร์บำเพ็ญ 6 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.ส่วน น.ส.กนกนารถ จับกุมได้ที่ห้อง 128/191 ชั้น 16 คอนโดเดอะลิธึม อยู่ปากซอยสี่แยกห้วยขวาง ติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวาง ซึ่งอยู่ใกล้กับศิริสุขแมนชั่น
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แถลงข่าวที่ ศิริสุข แมนชั่น ว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการขยายผล มาจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ 191 จับกุม นายสมบูรณ์ หรือ เล็ก ใจกุศล อายุ 42 ปี ได้พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 40 กรัม และยาบ้า 240 เม็ด ในพื้นที่ สภ.บางกรวย จากนั้น นายสมบูรณ์ ให้การซัดทอดว่า ไปรับยามาจาก นายสมพงษ์ และ น.ส.กนกนารถ ที่ศิริสุข แมนชั่น จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งวันนี้ นายสมพงษ์ กลับมาที่ห้องดังกล่าว จึงสามารถจับกุมตัว นายสมพงษ์ และ น.ส.กนกนารถ ได้ในที่สุด โดย นายบอย จะเช่าห้องพักไว้ 2 แห่ง คือ ที่ศิริสุข แมนชั่น และที่คอนโดเดอะลิธึม ซึ่งคอนโดเดอะริธึม จะเป็นตึกสูงอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้ศิริสุข แมนชั่น จะสามารถมองเห็นตึกศิริสุขแมนชั่น ได้อย่างชัดเจน และก่อนที่ นายสมพงษ์ จะเข้ามาที่ตึกศิริสุข แมนชั่น จะใช้กล้องส่องทางไกลมองมาที่ตึกก่อน เพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ศิริสุข แมนชั่น หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังไว้เป็นอย่างดี จนสามารถจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับระเบิดที่พบทุกลูก อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเป็นระเบิดสงคราม มีอานุภาพร้ายแรง แต่ได้มีการทาสีใหม่ที่ลูกระเบิดเพื่อกลบเกลื่อน ไม่ให้เห็นว่า เป็นระเบิดที่นำมาจากที่ใด หลังจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ทำการลบสีออก เพื่อตรวจสอบที่มาของระเบิดต่อไป และขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งนำตัวไปค้นที่บ้านพักของนายบอยที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยว่ายังมีระเบิดหรือยาเสพติดอีกหรือไม่
จากการสอบสวน นายสมพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ระเบิดและกระสุนปืนทั้งหมด เป็นของเพื่อนชื่อ “ตึ๋ง” ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่เพิ่งถูกตำรวจจับในข้อหามียาเสพติดไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และติดคุกอยู่ขณะนี้ ได้นำมาฝากไว้ ส่วนยาไอซ์เป็นของตนซื้อมาไว้เสพ ซึ่งหลังจากนายตึ๋ง ถูกตำรวจจับติดคุก ก็ไม่รู้ว่าจะเอาระเบิดและกระสุนปืนไปไว้ที่ไหนเลยเก็บไว้ที่ห้องพักก่อนกระทั่งมาถูกจับ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า เคยถูกตำรวจที่จังหวัดนนทบุรี จับกุมในคดียาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน เมื่อปี 53 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ก.ค.54 ก็มาถูกจับอีก เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทรวรลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กตว.บก.สปพ.เจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสมพงษ์ หรือบอย เสือปรางค์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 1 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี และน.ส.กนกนารถ หรือ อ้อ ไกรพล อายุ 19 ปี พร้อมของกลางระเบิดชนิดขว้าง M67 หรือระเบิดลูกเกลี้ยง จำนวน 14 ลูก กระสุนปืนอาก้า AK47 จำนวน 1,500 นัด อยู่ในกล่องเหล็กจำนวน 2 กล่อง ยาไอซ์ 3 กรัม กล้องส่องทางไกล 1 ตัว อุปกรณ์เสพยาจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ จำนวนมาก และรถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคเอชอาร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมตัว นายสมพงษ์ ได้ที่ ศิริสุข แมนชั่น ห้อง 2614 ชั้น 6 ซอยประราษฎร์บำเพ็ญ 6 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.ส่วน น.ส.กนกนารถ จับกุมได้ที่ห้อง 128/191 ชั้น 16 คอนโดเดอะลิธึม อยู่ปากซอยสี่แยกห้วยขวาง ติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวาง ซึ่งอยู่ใกล้กับศิริสุขแมนชั่น
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แถลงข่าวที่ ศิริสุข แมนชั่น ว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการขยายผล มาจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ 191 จับกุม นายสมบูรณ์ หรือ เล็ก ใจกุศล อายุ 42 ปี ได้พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 40 กรัม และยาบ้า 240 เม็ด ในพื้นที่ สภ.บางกรวย จากนั้น นายสมบูรณ์ ให้การซัดทอดว่า ไปรับยามาจาก นายสมพงษ์ และ น.ส.กนกนารถ ที่ศิริสุข แมนชั่น จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งวันนี้ นายสมพงษ์ กลับมาที่ห้องดังกล่าว จึงสามารถจับกุมตัว นายสมพงษ์ และ น.ส.กนกนารถ ได้ในที่สุด โดย นายบอย จะเช่าห้องพักไว้ 2 แห่ง คือ ที่ศิริสุข แมนชั่น และที่คอนโดเดอะลิธึม ซึ่งคอนโดเดอะริธึม จะเป็นตึกสูงอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้ศิริสุข แมนชั่น จะสามารถมองเห็นตึกศิริสุขแมนชั่น ได้อย่างชัดเจน และก่อนที่ นายสมพงษ์ จะเข้ามาที่ตึกศิริสุข แมนชั่น จะใช้กล้องส่องทางไกลมองมาที่ตึกก่อน เพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ศิริสุข แมนชั่น หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังไว้เป็นอย่างดี จนสามารถจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับระเบิดที่พบทุกลูก อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเป็นระเบิดสงคราม มีอานุภาพร้ายแรง แต่ได้มีการทาสีใหม่ที่ลูกระเบิดเพื่อกลบเกลื่อน ไม่ให้เห็นว่า เป็นระเบิดที่นำมาจากที่ใด หลังจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ทำการลบสีออก เพื่อตรวจสอบที่มาของระเบิดต่อไป และขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งนำตัวไปค้นที่บ้านพักของนายบอยที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยว่ายังมีระเบิดหรือยาเสพติดอีกหรือไม่
จากการสอบสวน นายสมพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ระเบิดและกระสุนปืนทั้งหมด เป็นของเพื่อนชื่อ “ตึ๋ง” ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่เพิ่งถูกตำรวจจับในข้อหามียาเสพติดไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และติดคุกอยู่ขณะนี้ ได้นำมาฝากไว้ ส่วนยาไอซ์เป็นของตนซื้อมาไว้เสพ ซึ่งหลังจากนายตึ๋ง ถูกตำรวจจับติดคุก ก็ไม่รู้ว่าจะเอาระเบิดและกระสุนปืนไปไว้ที่ไหนเลยเก็บไว้ที่ห้องพักก่อนกระทั่งมาถูกจับ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า เคยถูกตำรวจที่จังหวัดนนทบุรี จับกุมในคดียาเสพติดและครอบครองอาวุธปืน เมื่อปี 53 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ก.ค.54 ก็มาถูกจับอีก เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป