xs
xsm
sm
md
lg

สตช.ใช้รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ร่วมตรวจค้นจับกุมอาวุธปืน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สตช.งัดมาตรการเข้มป้องกันแก๊งวัยรุ่น แก๊งรถซิ่ง และกลุ่มอิทธิพลใช้อาวุธปืนก่อเหตุ ยอมรับสถิติคดีอาชญากรรมโดยใช้อาวุธปืนสูงขึ้น และมีผู้สูญเสียเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอาวุธปืนหาได้ง่าย จึงได้สั่งการไปยังพื้นที่นครบาล บช.ภ.1, 2 และ 7 ให้กวดขันจับกุม รวมทั้งตั้งด่านตรวจค้นรถต้องสงสัย โดยใช้รถเอกซเรย์เคลื่อนที่เข้าร่วมปฏิบัติการ โดยเฉพาะพื้นที่นครบาลจะเริ่มทันทีทุกพื้นที่คืนพรุ่งนี้

วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และ ศชต. เพื่อวางมาตรการป้องกันแก๊งวัยรุ่น แก๊งรถจักรยานยนต์ซิ่ง และผู้มีอิทธิพลใช้อาวุธปืนก่อเหตุสะเทือนขวัญ โดยมี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลากว่า 1 ชม.

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา การก่ออาชญากรรมโดยใช้อาวุธปืนในการก่อคดี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มีผู้สูญเสียจำนวนมาก และเป็นกรณีที่เกิดขึ้นซ้ำซาก เนื่องจากอาวุธปืนสามารถหาได้ง่าย จึงได้วางมาตรการในการตรวจค้นจับกุมผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเพิ่มความเข้มในการตรวจตราการพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตโดยเคร่งครัด โดยที่ประชุมวันนี้ ได้พูดคุยเพื่อวางแนวทางในการปฏิบัติของ บช.น. บช.ภ.1, 2 และ 7 ซึ่งมีความล่อแหลมเรื่องอาวุธปืน

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของนครบาล พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ได้สั่งการไปยังทุกกองบังคับการในสังกัด ให้ระดมกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนให้ได้ตามเป้าที่กำหนด รวมถึงการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธของแต่ละท้องที่ การตรวจอาวุธตามสถานบริการ และตรวจค้นรถต้องสงสัยที่มีอาวุธ โดยใช้รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ของ บช.ปส. ที่ใช้ในการเอกซเรย์ยาเสพติด ซึ่งเป็นเครื่องที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องตรวจอาวุธที่สนามบิน เชื่อว่า การใช้เครื่องมือที่ทันสมัยเหล่านี้จะช่วยให้จับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้น

“ความจริงแล้ว อาวุธปืนเหล่านี้มีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมี แต่ขณะนี้มีเรื่องยาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะผู้ที่ใช้ยาเสพติดจะขาดสติในการใช้อาวุธปืน อย่างกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 7 วิสามัญ นายณัฐวัตร หรือแสวง สำลี อายุ 48 ปี ที่ก่อเหตุยิงภรรยา และญาติเสียชีวิตรวม 5 ศพ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอาวุธและยาเสพติด” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังทุกสถานีตำรวจให้ระดมกวาดล้างอาวุธปืนและยาเสพติด โดยดำเนินการระหว่าง 22-26 มิ.ย.นี้ และวันที่ 27 มิ.ย.จะรวบรวมผลการปฏิบัติมาแถลงต่อสื่อมวลชน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผลการปฏิบัติประสบความสำเร็จมาน้อยเพียงใด ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ผบ.ตร. ได้มองการณ์ไกล มอบรถเอกซเรย์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยจาก บช.ปส. มาให้ตำรวจนครบาลใช้ในการทำงาน เชื่อว่า การจับกุมจะได้ผลดีมากขึ้น ได้พยานหลักฐานชัดเจน ทั้งนี้ ในวันที่ 22 มิ.ย.เวลา 15.00 น. ตำรวจนครบาลจะดำเนินการซักซ้อมแผนการปฏิบัติ ที่ลานด้านหน้ากองปราบปราม ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติจริงทันทีในช่วงค่ำวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงประชาชนขอให้สบายใจได้ว่า รังสีจากรถเอกซเรย์คันนี้จะไม่กระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างแน่นอน

รรท.ผบช.น. กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินการกับสถานบริการที่มีการลักลอบเปิดเกินเวลานั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับตำรวจให้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่งตำรวจเองไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการกวดขันอย่างเรื่องนี้ต่อเนื่อง หากพบว่ามีสถานบริการใดเปิดเกินเวลาก็จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น