นครบาลรวบอดีตพระครูเสื้อแดง เมืองปราจีนบุรี อ้างเป็นรอง ผกก.มือขวา “จ่าเพียร” วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด มีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่ออ้างว่า เส้นใหญ่สามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือในหน้าที่การงานได้ โดยแลกกับทรัพย์สินเงินทอง ก่อนเชิดเงินหนีไป
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นตำรวจเพื่อหลอกเอาทรัพย์สินจากประชาชน และมีอาวุธปืนเถื่อน คือ นายณรงค์ หรือเติร์ก สมบูรณ์ปฏิบัติ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ 10 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 16 นัด เครื่องช็อตไฟฟ้า 1 อัน ชุดเครื่องแบบตำรวจสีกากี และสีเขียว มีป้ายชื่อ พัฒนกุล บุญหลาย อย่างละ 1 ชุด และรถยนต์แวน ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น เอ็นวี หมายเลขทะเบียน ผฉ 1409 ชลบุรี (ซึ่งเป็นของนางศิริพร สิมสา ผู้เสียหาย) โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณอนุสาวรีย์ทหารอาสา แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.)
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวแถลงว่า ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน.ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีชายอ้างตัวเป็นตำรวจ โดยใช้ชื่อ พ.ต.ท.พัฒนกุล บุญหลาย รอง ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา และมีพฤติการณ์ชอบใช้อาวุธปืนข่มขู่ชาวบ้านในบริเวณที่ถูกจับกุมตัวได้ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหา เลยแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นพบของกลางทรัพย์สินหลายรายการ ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์แวนของกลาง จึงนำตัวมาสอบสวนดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเคยเข้าชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงตามสถานที่ต่างๆ และเคยบวชเป็นพระ ชื่อพระเล็ก อยู่ที่วัดคลองร่วมพัฒนา ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ประมาณ 20 ปี ซึ่งเคยรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ พ.ต.ท.พัฒนกุล บุญหลาย จึงได้ไปซื้อเครื่องแบบ และอุปกรณ์ของตำรวจมาใส่เพื่อให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทั้งนี้ ยังอ้างว่า เป็นลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา รวมทั้งตนได้ถ่ายรูปคู่กับนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เพื่อเก็บไว้หลอกแอบอ้างผู้เสียหายว่าสามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือในหน้าที่การงานได้ หากบุคคลใดหลงเชื่อก็จะถูกหลอกลวงเอาเงิน หรือทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป ส่วนรถยนต์แวน (ของกลาง) นั้น ได้รู้จักกับเจ้าของรถมาก่อน และผู้เสียหายได้ให้ยืม ซึ่งตนได้ยึดนำรถมาใช้เอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ ไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบ หรือไม่มีสิทธิใช้ยศ ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งที่หมายถึงเครื่องอิสริยาภรณ์ กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ” ก่อนนำตัวส่งไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป