ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแก้ให้รับคำฟ้อง คดี “ทักษิณ ชินวัตร” ฟ้อง “แก้วสรร” สัมภาษณ์หมิ่นผ่านรายการโทรทัศน์ ชี้อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้นบางส่วน ขณะความผิดว่าด้วยการปราบปรามทุจริตให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (13 มิ.ย.) ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.2226/2550 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้นายศราวุธ นาคะปัท ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ ฟ้องนายแก้วสรร อติโพธิ์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
คำฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2550 จำเลยได้ใส่ความโจทก์ด้วยการกระจายภาพและเสียง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชังจากบุคคลที่ได้ยินและประชาชนทั่วไป เหตุเกิดที่แขวงสนามเป้า เขตพญาไท และแขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดี โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา
ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้นบางส่วน จึงพิพากษาแก้ให้ประทับรับคำฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มาตรา 238 ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น
วันเดียวกัน ศาลได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.2350/2555 ที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 36 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ถูกออกหมายเรียกคดีชุมนุมปิดล้อมสนามบินเมื่อปี 2551 ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี พันธมิตรฯบุกสนามบิน เป็นจำเลยในความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม โดยโจทก์ยื่นฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2551 จำเลยได้ลงนามออกหมายเรียกโดยกล่าวหาว่าโจทก์ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งเป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด ซึ่งไม่ใช่วิธีการตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ขณะที่โจทก์อ้างว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในสนามบิน หรือสถานที่เกิดเหตุ คดีนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การลงนามออกหมายเรียกเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย จึงเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย คำฟ้องโจทก์ไม่มีมูล ซึ่งโจทก์เองก็ไม่ได้ฟ้องว่าจำเลยใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้ง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีหมายเลขดำ อ.4142/2551 ที่นายสิทธิพร โพธิโสดา ทนายความ ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เป็นโจทก์ฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ, ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย วันนี้ศาลมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำสั่งไปเป็นวันที่ 18 ก.ค. เวลา 09.30 น.