xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์ให้จำคุก 13 ปี “ฤทธิ์ณรงค์ อารมณ์ฤทธิ์” คดียิงเอ็นจีโอสงขลาปี 52

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสิทธิชัย แพทย์พงศ์
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาลอุทธรณ์ภาค 9 กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้อง เป็นจำคุก 13 ปี “ฤทธิ์ณรงค์ อารมณ์ฤทธิ์” จำเลยคดียิงเอ็นจีโอสงขลา “สิทธิชัย แพทย์พงศ์” เสียชีวิตเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2552

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุก นายฤทธิ์ณรงค์ อารมณ์ฤทธิ์ เป็นเวลา 13 ปี ซึ่งเป็นจำเลย “เรื่องความผิดต่อชีวิต พยายามฆ่า ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ลหุโทษ” กรณียิงนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ เอ็นจีโอสงขลาได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตภายหลังจากคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาชั้นศาล

สืบเนื่องจากนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ อุปนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ซึ่งเป็นสมาชิกองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ ถูกประกบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 เหตุเกิดบริเวณหน้าหมู่บ้านทรัพย์ปรีชา ถ.ลพบุรีราเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อหน้าแม่ค้าและประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก

โดยนายสิทธิชัย แพทย์พงศ์ เป็นเอ็นจีโอรับผิดชอบงานเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรประชาชน ด้วยการสนับสนุนจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ในพื้นที่เป้าหมายขององค์กร และมีบทบาทสำคัญในชุมชนบ้านเกิดของตนเอง เนื่องจากนำหลักการทำงานเดียวกันนั้นมาจัดตั้งกลุ่มรับซื้อน้ำยางพาราในพื้นที่หมู่ 6 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อลดการผูกขาดและการเอาเปรียบของพ่อค้า ส่งผลให้นายทุนเดิมในชุมชนเสียผลประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเองมีข้อมูลว่า ในรอบ 2 ปีก่อนเกิดเหตุมีความขัดแย้งในพื้นที่นี้มาโดยตลอด และมีบุคคลสำคัญทั้งผู้ใหญ่บ้านและผู้บริหารกลุ่มน้ำยางสดในหมู่ 6 ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บมาแล้ว 4 ราย

นายสิทธิชัยเองก็ถูกข่มขู่มาโดยตลอด และทราบล่วงหน้าว่ามีการวางแผนฆ่าตนเอง จึงได้บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้อย่างละเอียด รวมทั้งไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ จนเป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมนายฤทธิ์ณรงค์ อารมณ์ฤทธิ์ ได้

ต่อมาวันที่ 25 กรกฎาคม 2554 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ริบของกลาง ทางญาตินายสิทธิชัย ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมจึงได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลย มีรายละเอียดโดยสรุปดังนี้

ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมฟังขึ้นบางส่วน พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา7, 8 ทวิ วรรค 1, 72 วรรค 3, 72 ทวิ วรรค 2 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 12 ปี ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มี และใช้ไว้ในครอบครองจำคุก 6 เดือน ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต และโดยไม่มีเหตุสมควร เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 6 เดือน

รวมจำคุก 12 ปี 12 เดือน และริบของกลาง คำขออื่นจากนี้ให้ยก
กำลังโหลดความคิดเห็น