ศาลสั่งจำคุก อดีตพนักงานแบงก์กรุงไทย 120 ปี ฐานทุจริตเงินค่าโทรศัพท์สมาชิกสหกรณ์ ม.ธรรมศาสตร์ และสำนักงานอัยการสูงสุด รับสารภาพลดเหลือ 60 ปี
วันนี้ (8 มิ.ย.)ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตต่อหน้าที่ อ.2056/54 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุรพล หรือ วรพล ภานุโสภา อายุ 45 ปี อดีตพนักงานของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาท่าเตียน เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่จัดทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 18 ม.ค.54 ระบุความผิดสรุปว่า
เมื่อระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค.40 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานระดับ 5 (ขณะนั้น) มีหน้าที่ให้บริการลูกค้ารับฝากเงิน และทำธุรกรรมการเงินทั้งในละนอกสถานที่ ได้บังอาจกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยจำเลยออกไปรับเงินชำระค่าโทรศัพท์จากสมาชิกสหกรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกสหกรณ์ สำนักงานอัยการสูงสุด แต่จำเลยกลับเบียดบังเงินที่รับชำระจำนวน 24 ครั้ง เป็นเงิน 32,622 บาท เป็นของตนเองโดยทุจริต ต่อมาวันที่ 26 มี.ค.51 ธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี และตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีมติให้ไล่ออก และให้จำเลยชดใช้เงินค่าเสียหายทั้งหมด กระทั่งวันที่ 28 ม.ค.52 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน โดยให้การปฏิเสธ ในชั้นสอบสวน แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล และไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3,4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมจำนวน 24 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี เป็นจำคุก 120 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 60 ปี อย่างไรก็ตาม กฎหมายบัญญัติให้จำคุกจำเลยสูงสุดไว้ 50 ปี
