ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - โจรเชียงใหมบุกปล้นแบงก์ไทยพาณิชย์ ตลาดสมเพชร ชักมีด-ปืนขู่พนักงานก่อนกวาดเงินร่วม 7 แสน หนีลอยนวล พนักงานแบงก์ เผย ฉายเดี่ยวเข้ามาปล้นจังหวะที่ยามไปทานข้าวเที่ยง เห็นพนักงานแบงก์ใส่เงินลงกระเป๋าช้า กระโดดข้ามเคาน์เตอร์มาลงมือกวาดเงินเอง แถมมีคนเห็นขี่รถกลับมาดูเหตุการณ์ซ้ำอีกรอบก่อนขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป
วันนี้ (5 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดสมเพชร (เชียงใหม่) ถ.ราชวิถี หลังจากที่ธนาคารดังกล่าวถูกคนร้ายบุกเข้าชิงทรัพย์ ได้เงินสดไปกว่า 7 แสนบาท ก่อนจะหลบหนีไปอย่างลอยนวล
ในที่เกิดเหตุมีพนักงานและลูกค้าส่วนหนึ่ง ซึ่งต่างมีท่าทีตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภายในธนาคารไม่มีร่องรอยความเสียหายใดๆ มีเพียงรอยเท้าของคนร้ายที่เหยียบบริเวณเคาน์เตอร์ เพื่อเข้าไปกวาดเงินภายในเคาน์เตอร์เท่านั้น
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.14 น.เมื่อมีชายไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อผ้าสีดำและหมวกกันน็อกสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดด้านหน้าธนาคาร แล้วเดินเข้ามาภายในธนาคารพร้อมด้วยอาวุธมีดและปืน ก่อนจะทำการกวาดเงินสดภายในบริเวณเคาน์เตอร์ใส่ในกระเป๋าที่นำมาด้วยแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นางสาวศุภรัตติ รัตนคช หัวหน้าฝ่ายธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดสมเพชร (เชียงใหม่) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายบุกเข้ามาชิงทรัพย์ภายในธนาคาร ว่า ระหว่างที่พนักงานของธนาคารกำลังให้บริการลูกค้าในช่วงบ่าย คนร้ายได้เดินเข้ามาภายในธนาคารพร้อมกับโยนกระเป๋าสีดำที่นำมาด้วยลงบนโต๊ะ ที่มีพนักงานธนาคารและแม่บ้านช่วยกันนับเหรียญกษาปณ์ที่ลูกค้านำมาฝาก ก่อนจะชักมีดและปืนออกมา และชี้ให้พนักงานธนาคารนำเงินใส่ลงไปในกระเป๋าดังกล่าว
นางสาวศุภรัตติ ระบุว่า เมื่อเห็นว่าพนักงานใส่เงินลงไปในกระเป๋าดังกล่าวช้า คนร้ายได้ปีนข้ามเคาน์เตอร์เข้ามาด้านใน และลงมือกวาดเงินที่มีอยู่ในบริเวณเคาน์เตอร์ใส่ลงกระเป๋าด้วยตนเอง ก่อนที่จะออกจากธนาคารและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนเงินสดที่คนร้ายนำไปในครั้งนี้นั้นคาดว่ามีจำนวนประมาณ 6-7 แสนบาท
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือก่อเหตุนั้น เป็นช่วงที่ยามรักษาความปลอดภัยของธนาคารได้หยุดพักเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน รวมทั้งมีรายงานจากผู้เห็นเหตุการณ์บางส่วน ว่า พบเห็นชายที่แต่งกายลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาดูเหตุการณ์อีกครั้งหลังเกิดเหตุแล้ว ก่อนจะขี่รถตัดผ่านคูเมืองมุ่งหน้าไปทางประตูท่าแพ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำลูกค้าที่อยู่ภายในธนาคารในช่วงเวลาดังกล่าว ก่อนที่จะทำการปิดธนาคารชั่วคราว เพื่อทำการสอบสวนพนักงานและยามรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียด รวมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารไปตรวจสอบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในพื้นที่แล้ว
