นครบาลตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นบาท หนุ่มควงปืนจี้แบงก์กรุงเทพ กวาดเงินไป 6.5 แสนบาท ขณะที่ชุดสืบสวนมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ขอเวลา 3 วันจะมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ “รณศิลป์” ถกทีมสืบแบ่งงานติดตามจับกุมคนร้าย โดยสอบพนักงานแบงก์แล้วไม่พบพิรุธ รู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย
วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริญะภิญโญ รองผบช.น.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายชายวัยรุ่นใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อย ตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เงินสดไปจำนวน 6.5 แสนบาท แล้วหลบหนีไป เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า คดีดังกล่าว พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ได้มีการสั่งการและมอบแนวทางในการสืบสวนคดีดังกล่าวแล้ว โดยขอเวลาดำเนินการ 3 วัน คาดว่า จะมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยได้มีการตั้งรางวัลนำจับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในธนาคารกรุงเทพ สาขามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นเงิน 50,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใดพบเบาะแส หรือข้อมูลของคนร้ายที่สามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ สามารถแจ้งได้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 หมายเลข 02-566-4242 หรือ ผกก.สน.สุทธิสาร โทร.081-843-6677
ในวันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.ได้เรียก พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ภัทรวุฒิ สุนทรศารทูล สว.สส.สน.สุทธิสาร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.2 และฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร และเข้าร่วมประชุมเพื่อแบ่งงานกันในการติดตามจับกุมคนร้าย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
หลังการประชุม พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ได้สั่งการให้ทางบก.สส.บช.น. เข้ามาควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายในคดีนี้ด้วย โดยในวันนี้ทาง พล.ต.ต.รณศิลป์ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้ง บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.2 และ ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เข้าประชุมเพื่อแบ่งงานกันทำไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน โดยฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร จะรับผิดชอบในการลงพื้นที่ในการติดตามหาตัวกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังลงพื้นที่หาภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วย
ต่อข้อถามที่ว่า พนักงานของธนาคารอาจจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น เพราะปกติหากถูกจี้ชิงทรัพย์ในธนาคาร พนักงานที่ถูกจี้ส่วนใหญ่จะหยิบเงินในลิ้นชักให้ไป แต่เหตุครั้งนี้มีการเข้าไปหยิบเงินจากในห้องให้คนร้ายไปด้วยนั้น พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า จากการสอบสวนยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นแต่อย่างใด ซึ่งอาจเป็นเพราะพนักงานของธนาคารกำลังตกใจหรืออยู่ในความหวาดกลัว ประกอบกับมีพนักงานคนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย จึงอาจจะกลัวว่าหากปืนลั่นขึ้นมาแล้วตัวเองอาจจะเป็นอันตรายได้ ส่วนเรื่องที่ว่าเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีไป หากไม่ใช่คนในพื้นที่ก็ไม่สามารถใช้เป็นหลบหนีได้นั้น ทางประตูดังกล่าวแต่ก่อนเปิดเป็นประตูให้วินรถตู้โดยสารให้บริการนักศึกษา แต่ปัจจุบันได้ปิดไม่ให้รถวิ่งแล้ว ซึ่งเหลือเพียงแค่ให้เดินเข้าออกได้เท่านั้น โดยแนวทางการสืบสวนยังไม่สามารถตัดประเด็นที่ว่าคนร้ายอาจจะเป็นทั้งนักศึกษา หรือชาวบ้านในละแวกนั้นออกไปได้
ด้าน พ.ต.ท.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา รองผกก.สส.สน.สุทธิสาร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ได้ขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาตามภาพกล้องวงจรปิดแล้ว นอกจากนี้ยังได้ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัย และพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าหลังก่อเหตุแล้ว จุดสุดท้ายที่กล้องสามารถจับภาพคนร้าเอาไว้ได้นั้นพบว่า คนร้ายเดินเท้าออกมาที่ริมถนนวิภาวดีรังสิต แต่ยังไม่ทราบว่ามุ่งหน้าไปทางไหน นอกจากนี้ ยังได้เรียกพนักงานของธนาคารที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมก็ยังไม่พบพิรุธ เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพนักงานของธนาคาร