ศาลสั่งจำคุก 21 ปี 9 เดือน แฮกเกอร์แสบล้วงข้อมูลลับบัตรเอทีเอ็มลูกค้าแบงก์ไทยพาณิชย์ โอนเงินกว่า 3 แสนไปจ่ายหนี้ รับสารภาพศาลปรานีลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงเหลือติด 10 ปี 10 เดือน 15 วัน พร้อมคืนเงินให้ผู้เสียหาย
วันนี้ (24 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 804 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.912/55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้องนายภาณุพัฒน์ เพ็ญพัฒน์ ฤกษ์เสริมสุข อายุ 30 ปี ชาว จ.นครนายก เป็นจำเลยในความผิดฐานเข้าระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหาย, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 55 ระบุความผิดสรุปว่า
เมื่อระหว่างวันที่ 22 ก.ย.-27 ก.ย. 52 ต่อเนื่องกัน จำเลยบังอาจใช้ข้อมูลหมายเลข 16 หลัก ที่ปรากฏบนหน้าบัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสลับที่ใช้ถอนเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ที่ออกให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายอีก 4 ราย แล้วจำเลยนำไปสมัครขอใช้บริการ SCB EASY NET โดยกำหนดชื่อประจำตัว และรหัสผ่านด้วยตนเองตามขั้นตอนและวิธีการที่ ธนาคารฯ กำหนด เป็นเหตุให้ธนาคารฯ หลงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้เสียหาย 4 ราย จึงออกชื่อประจำตัวผู้ใช้ให้ จากนั้นจำเลยได้นำชื่อประจำตัวของผู้เสียหาย และรหัสผ่านไปโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายเพื่อใช้ชำระค่าสินค้า หรือบริการทางอินเทอร์เน็ตหลายครั้งซึ่งเป็นร้านค้าต่างประเทศรวม 4 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 368,800 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ติดตามจับกุมได้ พร้อมให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงและเขตจตุจักร ทกม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 ประกอบมาตรา 269/7, 334,335 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 5, 7, 9 เป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรม ฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ 5 กระทง จำคุกกระทงละ 9 เดือน เป็นจำคุก 3 ปี 9 เดือน ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหายฯ 4 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี และฐานลักทรัพย์ฯ จำคุกกระทงละ 2 ปี จำนวน 5 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี รวมจำคุกจำเลย 21 ปี 9 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 10 ปี 10 เดือน 15 วัน และให้จำเลยชดใช้เงินคืนจำนวน 368,800 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย