ก.ตร.มีมติเห็นชอบให้ส่งสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาโทษทางวินัย “พัชรวาท-สุชาติ-เพิ่มศักดิ์” ซึ่งถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ตามที่ ป.ป.ช.ร้องขอ
วานนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2555 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ส่งสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาโทษทางวินัยของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ที่ถูกคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ตามที่ ป.ป.ช.ร้องขอ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ส่วนการพิจารณารายงานการลงโทษ และพิจารณาผลการหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบรายงานการดำเนินการทางวินัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เรื่องนี้ ก.ตร.ได้มีความเห็นเป็น 2 ประเด็น ประการแรก กฤษฎีกาเห็นว่า กรณีดังกล่าวให้ถือว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ยุติการสอบสวน เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนขอเท็จจริงไม่สามารถดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ถูกกล่าวหาออกจากราชการ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 94 วรรคแรก ดังนั้น ถือว่าการดำเนินการทางวินัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์สิ้นสุดแล้ว ก.ตร.จึงไม่มีอำนาจในการพิจารณา ส่วนคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งไว้จะสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้กฤษฎีกาเห็นว่าเมื่อการสอบสวนยุติ คณะกรรมการสอบสวนและสำนวนการสอบสวนทางวินัยดังกล่าวต้องสิ้นสุดลงเช่นเดียวกัน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จเรตำรวจ (สบ 8) ร้องทุกข์ว่่าไม่ได้ความเป็นธรรมกรณีไม่ได้รับการตั้งแต่งให้การเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ก.ตร.ได้มีมติพิจารณาให้ยกคำร้องตามที่อนุฯ ก.ตร.อุทธรณ์ร้องทุกข์เสนอ ส่วนการดำเนินการกรณีทุจริตในการสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรี เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการประทวน พ.ศ. 2551 ทั้งหมด 110 คนนั้น พบว่ามีปัญหาทุจริตเพียง 9 คน ส่วนอีก 101 คน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย แต่ให้ถือว่าทั้งหมดขาดคุณสมบัติเอาไว้ก่อน และรอ