xs
xsm
sm
md
lg

“เลิศฤทธิ์” ป้อง “พัชรวาท” 7 ตุลา จี้ทบทวนกล่าวโทษ “เหลิม” อ้าง ตร.ปราบถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตอบกระทู้ สว.เรื่องการใช้จ่ายเงินของ สนง.ตช. และหน่วยงานของตำรวจพร้อมกับตอบปัญหาของ อ.วันชัย ที่ถามถึงการวิ่งเต้นของนายตำรวจโดยที่ อ.วันชัย ได้ยกย่องรัฐบาลชุดนี้ว่าใช้คนถูกกับงานโจรต้องรู้โจร ตำรวจต้องรู้เรื่องตำรวจ
ส.ว.เพื่อนร่วมรุ่น "ประวิตร" ป้อง “พัชรวาท” สุดลิ่ม อ้างสลายพันธมิตรฯ 7 ตุลา ทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก โอ่ทั่วโลกก็ทำกัน เหตุกลัวความเสียหาย ชมทำถูกแล้ว จี้ทบทวนกล่าวโทษ หวั่นเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าเคลียร์ม็อบ ด้าน “เฉลิม” ได้ที ชี้ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาถูกต้องแล้ว ชี้เรื่องคืนเก้าอี้ “สุชาติ” ค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. หลัง ก.ตร.ป้องพรรคพวกขัดแย้งมติองค์กรอิสระ


วันนี้ (12 ก.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา โดยมีพลเอกธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดย พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 หากพิจารณาการทำหน้าที่จะเห็นว่าเห็นว่าการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก หากไม่ดำเนินการอาจจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ เหตุการณ์คล้ายกันนี้มีเกิดขึ้นทั่วโลกซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายได้ตลอด กรณีดังกล่าวผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดซึ่งถือว่าถูกต้องและควรกระทำ ดังนั้น การกล่าวโทษหรือการลงโทษ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายจึงน่าจะมีการทบทวนเพื่อดูถึงความถูกต้องเหมาะสมเพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะแล้วจะไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐกล้าเข้าไปดูแลกรณีเกิดเหตุร้ายแรงหรือวิกฤต

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมารอชี้แจงรายงานการใช้จ่ายเงินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์เรื่องนี้ในช่วงเกิดเหตุการณ์โดยเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการไปตามหลักสากล จากเบาไปหาหนัก โดยได้ใช้วิธียิงแก๊สน้ำตาถือว่าตำรวจทำถูกต้อง แม้จะเกิดกรณีความสูญเสีย อย่างไรก็ดี ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในยุคนั้น ได้ทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. โดย ป.ป.ช.มีความเห็นว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.สุชาติ มีความผิด รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีมีความผิดด้วย แต่เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.สุชาติ เป็นข้าราชการประจำ แม้ ป.ป.ช.มีมติให้ออกจากราชการแต่ทั้งสองคนได้ใช้สิทธิไปร้องต่อคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) โดย ก.ตร.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ผิดให้ยกคำสั่ง ป.ป.ช.

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ดังนั้น อำนาจการบรรจุ พล.ต.อ.พัชรวาท จึงเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนอำนาจบรรจุ พล.ต.ท.สุชาติ เป็นของ ก.ตร.แต่ต้องรอความเห็นของนายกรัฐมนตรีว่าจะบรรจุหรือไม่ ต่อมานายอภิสิทธิ์ไม่ตัดสินใจ โดยนำเรื่องที่กตร.มีความเห็น ก.ตร.ไปขอความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยกฤษฎีกาทำความเห็นว่าหากสั่งการตามที่ ก.ตร.มีมติจะขัดต่อ ป.ป.ช. หากสั่งตาม ป.ป.ช.จะขัดกับ ก.ตร. นายอภิสิทธิ์จึงทำเรื่องเสนอ ป.ป.ช. โดยขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่มีความเห็นซึ่งตนเองก็รอดูอยู่ ทำให้การแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุชาติค้างอยู่ ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาทไม่ได้รับผลกระทบแล้วเพราะเกษียณอายุราชการแล้วแต่ยังคงกระทบต่อศักดิ์ศรีของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีเรื่องของ พล.ต.ท.สุชาติ หากเรื่องไม่แล้วเสร็จจะทำให้ พล.ต.ท.สุชาติเสียสิทธิไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ เมื่อ ส.ว.เสนอมาตนจะไปตามเรื่องให้ ตนเห็นด้วยกับ ส.ว.ที่เห็นว่าอดีต ผบ.ตร.และอดีต ผบช.น.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้อง

สำหรับ พล.อ.เลิศฤทธิ์ นั้น เป็นส.ว.สรรหา ในส่วนภาครัฐ ที่เสนอโดยสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยตำแหน่งก่อนหน้านี้เคยเป็นอดีตผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ทั้งนี้ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เคยเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น