ตร.ร่วม 2,000 นาย ซ้อมรับมือพันธมิตรฯ หน้ารัฐสภา “ผู้การแต้ม” ลั่นทำทุกทางไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ารัฐสภาได้ ระบุ ต้องซ้อมเสมือนจริง เตรียมความพร้อมแม้ พธม.ไม่เคลื่อน และจะมีการซักซ้อมจนกว่าการชุมนุมจะยุติ แจ้งไม่ปิดการจราจร ขณะ พันธมิตรฯ ทำการสักการะที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณหน้ารัฐสภา ได้มีการปิดการจราจรเพื่อฝึกซ้อมปราบปรามจลาจล และซักซ้อมแผนรับมือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ภายใต้แผนกรกฎ 52 โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อม ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 12 กองร้อย และ 1 กองร้อยจู่โจม รวมกว่า 2,000 นาย อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองร้อย จ.สุพรรณบุรี และกองร้อย จ.ระยอง เป็นต้น
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวกับกำลังตำรวจที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมผ่านเครื่องขยายเสียง ว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันเป็นไปด้วยความไม่เรียบร้อย โดยรัฐสภาเป็นเป้าหมายหนึ่งของผู้ชุมนุม ในฐานะผู้รับผิดชอบ ตำรวจต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในรัฐสภาได้
สำหรับการฝึกซ้อมได้มีการจำลองสถานการณ์แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ฝ่าย โดยจำลองเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่ง และกองกำลังเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง โดยให้ผู้ชุมนุมจำลองขว้างปาสิ่งของ โห่ร้อง พร้อมกับใช้กำลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ใช้โล่และกระบอง เพื่อเข้าไปในรัฐสภา โดยมีการเสริมกำลังกองร้อยอีกเข้าผลักดันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการสมมติเหตุการณ์ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม โดยใช้ระเบิดควันแทน จากนั้นได้จำลองสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นมาตั้งรับบริเวณหน้าประตูรัฐสภา แล้วใช้รถดับเพลิงที่เตรียมไว้ในบริเวณรัฐสภาฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ภายหลังการฝึกซ้อมผลักดันได้มีการแจกหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตาให้แก่ตำรวจทุกนายเพื่อทดลองสวมใส่อีกด้วย
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยภายหลังการฝึกซ้อม ว่า ข้อมูลจากฝ่ายการข่าวเบื้องต้น แจ้งว่าพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวในลักษณะดาวกระจายมายังบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา แต่ล่าสุด ได้รับการยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนขบวนมา แต่ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์รับผิดชอบพื้นที่รัฐสภา ต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันเพื่อความไม่ประมาท เนื่องจากรัฐสภาถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางการเมือง โดยในการฝึกซ้อมได้จำลองสถานการณ์เสมือนจริง โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 12 กองร้อย กับ 3 ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ดูแลพื้นที่ร่วมการฝึก โดยมีการจำลองเหตุการณ์ที่ต้องใช้แก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแรงดันสูง รวมถึงเหตุการณ์ปะทะ ว่า จะต้องปฏิบัติกันอย่างไร เพื่อบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ซ้อมการเจรจา และการใช้อุปกรณ์พิเศษ ทั้งนี้จะมีการซักซ้อมเพื่อรับมือม็อบจนกว่าการชุมนุมจะยุติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) พันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนมาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ทางเจ้าหน้าที่มีแผนในการรับมืออย่างไร พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ในบริเวณดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่เร็วประจำการจำนวน 3 ชุด โดยจะไม่มีการปิดการจราจร
สำหรับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่ประกาศเขตหวงห้าม รวมทั้ง ถ.ราชดำเนิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมอยู่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นประกาศ คงต้องรอคำสั่งอีกครั้ง จึงทราบว่าต้องดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ศอ.รส. เพราะตนมีหน้าที่เจรจา แต่ทำมาหลายครั้งก็ยังไม่เป็นผล อย่างไรก็ตามกำหนดเวลาการขอพื้นที่คืนนั้นก็ขึ้นอยู่กับ ศอ.รส.เช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดบริเวณถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ว่า มีการนำกำลังตำรวจกองปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 2, 4 และ 7 เข้ามาเสริม และนอกจากการวางกำลังตำรวจยังมีการวางเครื่องกีดขวาง ทั้งแท่นคอนกรีต และรั้วลวดหนาม และคาดว่าตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้เป็นต้นไป จะมีการตั้งด่านอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า ตลอดมาจนถึงถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ซึ่งเป็นไปตามประกาศที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเป็นพื้นที่ความมั่นคง และห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องผ่าน ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น
